ครั้งแรกที่ได้รู้จักกับ หลวงตา มหาบัว (ตอนที่ 3)

in #thai6 years ago

Ajahn_Chah_Forest_Monk.jpg

Picture Source

ตลอดทั้งวันผมอาศัยอยู่กับพระ และผู้คนในบ้านสีฟ้าบอกกับผมว่า ถ้าผมอยู่กับพระเมื่อผมเข้าไปในหมู่บ้าน ผมจะต้องเป็นผู้ช่วยให้ท่าน โดยการถือสัมภาระต่างๆรวมถึงซองจดหมายที่ใส่เงินข้างใน และเอาออกมาเมื่อท่านจำเป็นต้องใช้จ่าย เพราะว่าท่านไม่สามารถแตะต้องเงินได้ จริงๆแล้วผมยินดีที่ได้ทำแบบนั้นและได้เป็นผู้ช่วยของท่าน หรือ ที่เรียกว่า “เด็กวัด” เพราะผมได้เรียนรู้หลายสิ่งจากเมื่อคืนที่ผ่านมาและยังอยากเรียนรู้ต่อไป และอาจจะเป็นเพราะว่าผมเคยทำงานในอุตสาหกรรมด้านสื่อโทรทัศน์มาก่อนทำให้ผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องการมีอีโก และผมก็ไม่ได้มีอีโกเลย เพราะจากประสบการณ์สิ่งนั้นจะทำลายเราและเอาเรื่องแย่ๆมาให้ ดังนั้นวันนั้นทั้งวันของผมจึงเหมือนเด็กที่เพิ่งเปิดตาสู่โลกใหม่ ชาวบ้านต่างประหลาดใจที่เห็นฝรั่งอยู่กับพระในหมู่บ้านเล็กๆแถบอีสานแห่งนี้ ยิ่งกว่านั้น ยังประหลาดใจที่เห็นผมมาดูแลพระ วันนั้นผมได้รับการสอนมากมายเกี่ยวกับการเคารพไม่ว่าจะต่อใครก็ตาม ทั้งชาวบ้าน ทั้งพระ และตัวเอง วันนั้นผมไม่ได้กินอะไร ยกเว้นมื้อเช้ากับพระ พระท่านบอกผมให้กินเพราะว่าผมไม่ได้อยู่ในกฏของพระ แต่ผมเลือกที่จะไม่กินเพราะผมเคารพท่าน และผมคิดว่ามันจะดูไม่ดี

ระหว่างวันเมื่อผมได้เดินไปกับท่าน ท่านถามผมว่า คืนที่ผมอยู่ในป่ารู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ผมตอบผมรู้สึกดี และผมก็ไม่มีปัญหาอะไรกับมัน แต่ผมได้บอกท่านเกี่ยวกับเสียงผู้หญิงกรีดร้องในคืนนั้น ซึ่งเธอน่าจะอยู่ไม่ไกลจากที่เราอาศัยอยู่ พระท่านบอกผมว่าแถวนั้นไม่มีบ้านใครและคนไทยจะไม่มาอยู่ใกล้ๆกับสถานที่นั้นโดยเฉพาะตอนกลางคืน และพระท่านก็บอกผมในท้ายที่สุดว่านั่นคือวิญญาณผู้หญิง และเธอคงประหลาดใจที่เห็นชาวต่างชาติมานอนคนเดียวในป่า และวิญญาณนั้นทำให้ผมรู้ว่าเธออยู่กับผมที่นี่ด้วยการกรีดร้อง พระท่านบอกผมว่าท่านไม่ได้ยินเสียงอะไรและบอกอีกว่ามันเป็นบ่อยๆในทางโลกวิญญาณที่เขาจะมีปฎิสัมพันธ์กับคนหนึ่งโดยที่คนอื่นๆไม่สามารถสัมผัสได้ ซึ่งข้อเท็จจริงนี้มันค่อนข้างยากสำหรับผมที่จะเข้าใจเพราะเสียงนั้นดังมากแต่กลับเป็นผมเพียงคนเดียวที่ได้ยิน แต่ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ละ ตอนนี้ผมกำลังข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ ในโลกแห่งนั้นมันอาจมีกฏฟิสิกซ์ ที่แตกต่างไปจากโลกของเราก็เป็นได้ วันนั้นทั้งวันผ่านไปโดยการเยี่ยมเยี่ยนบ้านของชาวบ้านที่อยากได้คำปรึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณและทางนำชีวิต และเมื่อพระอาทิตย์ตกดินพวกเราก็ได้เดินทางกลับเข้าป่า ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้มาอยู่ในป่าอีกหนึ่งคืน ผมรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง แต่ไม่ใช่พลังในด้านไม่ดีเหมือนที่ผมเคยเจอที่อพาทเม้นต์ของผมหลังนั้น ผมไม่เคยรู้สึกถูกคุกคามจากอะไรก็ตามที่อยู่รอบๆ เมื่อเช้านี้ที่ผมได้พบกับแฟนของผม เธอบอกว่าพระท่านนี้สามารถเห็นวิญญาณได้ และตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าเขาสามารถเห็นได้จริงๆ

เมื่อถึงกลางคืน พวกเราก็นั่งอยู่หน้าบ้านไม่ไผ่เล็กๆใจกลางป่า พวกเราพูดคุยกันจนถึงชั่วโมงแรกของวันถัดไป เราพูดเกี่ยวกับหลายๆสิ่งในชีวิต ธรรมชาติของมนุษย์ ความหมายจริงๆของคำว่าบาปและวิธีขจัดมันออกจากชีวิต รวมถึงความหมายที่แท้จริงของการเคารพและอื่นๆอีกมากมายที่ส่งผลกับชีวิตประจำวันของเรา ฉันรู้สึกประหลาดใจที่ได้คุยเปิดใจกับพระฤาษี มันเป็นคืนที่น่าจดจำเพราะได้เรียนรู้หลายๆสิ่ง ผมบอกพระท่านว่าผมไม่มีศาสนาแม้ว่าผมเกิดในครอบครัวคริสเตียน และได้รับการสอนทางศาสนา แต่ผมไม่มีศาสนาที่ยึดมัน ศาสนาเดียวของผมตอนนี้ก็คือ ชีวิตวันต่อวัน และการทำความเข้าใจเหตุการณ์รอบๆตัว พระท่านบอกผมว่า ผมมีจุดรวมหลายอย่างเหมือนกับศาสนาพุทธ ซึ่งผมบอกเขาไปว่าตามวิธีคิดของผมศาสนาพุทธดูเหมือนกับปรัชญาชีวิตเพราะมันเต็มไปด้วยการให้ความเคารพต่อทุกสิ่งรอบๆตัว สำหรับผมการไปวัดอาจไม่ได้ทำให้เป็นคนที่ดีขึ้น แต่น่าจะเป็นการการทำทุกวันให้ดีที่สุดทั้งต่อคนที่อยู่รอบๆตัวคุณและต่อตัวคุณเอง หลายๆครั้งระหว่างพูดคุยผมรู้สึกแปลกๆ เช่น เมื่อผมกำลังพูดอยู่กับพระ ผมรู้สึกว่ามีอะไรอยู่ข้างหลังผม บางทีทางซ้ายมือ ไม่ก็ทางขวามือ ทุกๆครั้งที่ผมรู้สึกผมจะสังเกตเห็นพระท่านจะมองอย่างรวดเร็วในทิศทางที่ผมรู้สึก ผมไม่ได้บอกเขาหรือทำให้เขาดูออกว่าผมรู้สึกอะไรแต่เขาเหมือนจะเห็นบางอย่างข้างหลังผม โดยเขาจะมองอย่างรวดเร็วอาจจะเพื่อไม่ให้ผมกลัว

ก่อนที่พระจะไปนอน พระท่านได้ถามผมว่า นอกจากเสียงกรีดร้องเมื่อคืนมีเหตุการณ์แปลกๆอะไรอีกไหม ผมตอบว่าไม่มี และเขาก็บอกว่า “คุณเป็นคนมีสัมผัสที่ไว เอาไฟฉายนี้ไป เผื่อคุณต้องการทำอะไรบางอย่างในตอนกลางคืนและถ้าหากคุณเห็นวิญญาณ อย่ากลัวให้นั่งลงและทำสมาธิ สื่อสารกับเขาผ่านการนั่งสมาธิ พวกเขาจะไม่ทำร้ายคุณ” หลังที่เขาบอกผมว่า ผมสามารถเห็นวิญญาณได้ ผมก็เริ่มกลัว ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับผม ผมไม่แน่ใจว่าผมสามารถรับมันได้ไหม หลังจากพระท่านเข้าไปในบ้านไม้ไผ่ ผมก็เริ่มคิดเกี่ยวกับหลายๆสิ่งที่เขาบอกผมและเหมือนคืนก่อน ผมไม่สามารถนอนหลับได้ในช่วงแรก ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ผมเริ่มได้ยินเสียงคนเดินช้าๆ มันฟังได้ไม่ยากสำหรับความแตกต่างระหว่างเสียงเดิน 2 ขา หรือ 4 ขา ซึ่งผมรู้สึกชัดเจนว่าเป็น 2 ขา และมันเดินอย่างช้าๆจากที่ไหนสักแห่งทางซ้ายของผม ซึ่งเป็นพุ่มไม้ หลายๆสิ่งเริ่มเข้ามาในหัวเช่น “ถ้าผมเห็นมันละ” ผมพยายามถึงที่สุดเพื่ออธิบายที่มาของเสียง “อาจจะเป็นลิงก็ได้ แต่ลิงส่วนใหญ่จะเดิน 4 ขา ไม่ยืน2ขาและเดินช้าๆ ดังนั้นอาจจะเป็นใครสักคนที่มาหาพระ แต่เวลานี้มันมืดมากแล้วแต่กลับไม่มีแสงไฟฉาย” หลังจากคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ก็ไม่มีอะไรน่าจะเป็นไปได้เลย ในหัวผมเริ่มได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองและผมตกอยู่ในอาการกลัว ผมตัดสินใจถือไฟฉายและรอสิ่งนั้นเข้ามาใกล้ๆเพื่อฉายไฟใส่มัน หลังจากรอประมาณ 1 นาที (แต่นานมากในความคิดผม) เสียงก็เริ่มเข้ามาใกล้กว่าเดิมและผมก็มั่นใจว่า มันไม่ได้อยู่ที่พุ่มไม้แต่มาอยู่ในลานทรายรอบบ้านแล้ว ผมเตรียมตัวที่จะเปิดไฟฉายไม่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ตรงนั้น ผมฉายไฟอย่างรวเร็ว ผมหันซ้ายขวาตามทิศทางของเสียง “มันไม่มีอะไร” ผมส่องไฟไปทางอื่นก็ไม่มีอะไรอยู่ ดังนั้นผมจึงปิดไฟและรออยู่บนม้านั่งในความมืดกลางกลางป่า และเริ่มคิดว่าผมจินตนาการเสียงนั้นขึ้นมาเอง แต่ทันใดนั้นเสียงก็เริ่มดังอีกครั้งและเข้ามาใกล้ ๆ

ผมพยายามจะคิดหาทางอื่นๆว่ามันสามารถเป็นไปได้บ้าง หัวใจผมยังคงส่งเสียงดัง และสิ่งที่กำลังเข้ามาใกล้ทำให้ผมรู้สึกอึกอัด ผมพยายามคิดว่ามันน่าจะเป็นแค่ใครบางคนที่พยายามทำให้ผมกลัว ผมพยายามทำให้ใจสงบเท่าที่จะทำได้ จนกระทั้งเสียงนั้นห่างแค่ประมาณ 2 เมตร ผมรีบฉายไฟใส่มันอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่มีอะไร ถึงแม้ครั้งนี้ผมเปิดไฟฉายอย่างรวดเร็ว และผมมั่นใจว่าสิ่งนั้นไม่สามารถหนีได้ก็ตาม อีกทั้งตรงนั้นก็ไม่มีต้นไม้ และอีกครั้งที่พอผมปิดไฟ เสียงก็เริ่มดังอีกครั้งจากที่ๆผมเคยฉายไฟใส่เมื่อสักครู่ จากนั้นความรู้สึกไม่ดีก็เริ่มเข้ามาหาผม ความรู้สึกที่ผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างแต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น มันคือความรู้สึกไม่ดีเหมือนที่ผมเคยเจอที่อพาร์ทเม้นต์ในปี 92 แต่วันนี้ เมื่อได้คุยกับพระ เขาบอกว่าผมว่าผมเป็นคนมีสัมผัสไวและผมรู้สึกถึงพลังงานได้ ผมจึงปล่อยสิ่งนั้นเข้าใกล้ประมาณ1 เมตร และเปิดไฟฉายอีกครั้งและก็ไม่มีอะไร ผมจึงเริ่มเข้าใจว่าความรู้สึกนั้นแม้มันจะแข็งแรงมากแต่ผมก็ไม่สามารถมองเห็นได้เลย ดังนั้นผมจึงนอนลงนั่งที่ม้านั่ง หวาดกลัวเพราะว่าผมทำอะไรไม่ได้เลยและไม่รู้ว่ามันคือะไร จากนั้นผมก็มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับเพราะเสียงนั้นไม่ยอมหยุด มันยังคงอยู่แต่ห่างออกไปเริ่มที่จุดเริ่มต้นและกลับเข้ามาหาผมอีกครั้ง ซ้ำๆ

หลังจากเสียงนั้นกลับไปมา ซ้ำๆ สุดท้ายผมก็หลับและหลับสนิท จนกระทั้งผมตื่นขึ้นมาในลักษณะที่แปลกมาก ผมหลับลึกและตื่นขึ้นโดยนั่งบนม้านั่ง เท้าผมอยู่บนม้านั่งและผมรู้สึกแปลกๆบริเวณท้องของผม มันไม่เคยเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นเลยตลอดชีวิตของผม มันเหมือนกับผมยังไม่ตื่นเต็มที่และคล้ายๆกับโดนอะไรกระแทกและรู้สึกแปลกตรงช่วงท้อง ผมมองไปรอบๆทันทีและผมไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนเพราะมีเพียงแต่ความมืด ผมจึงได้เงยหน้ามองยอดของต้นไม้ และดวงดาว บนท้องฟ้า ผมก็นึกออกว่าตอนนี้ผมมาอยู่กลางป่ากับพระ ผมคิดว่าบางทีผมอาจหลับไปไม่กี่นาทีและสิ่งนี้ก็เกิดกับผม ความรู้สึกแปลกๆเริ่มหายไปจากท้องของผม ผมดูนาฬิกาซึ่งตอนนั้นเวลา 5 โมงเช้า ดังนั้นผมสามารถนอนต่อได้เล็กน้อยเพราะตอนนี้ยังมืด ผมจึงได้นอนลงและหลับไปในไม่กี่วินาทีถัดมา

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากรับประทานอาหารกับพระ ผมจึงเล่าเรื่องให้ท่านฟังเกี่ยวกับ คนที่เดินไปมารอบๆที่นี่ ซึ่งผมสามารถชี้จุดที่เกิดเสียงได้ เขาเล่าให้ผมฟังว่าในป่านี้มี วิญญาณ ​​3 คน ที่ยังไม่ไปไหน และพวกเขาทำได้แค่เดิน พระท่านแสดงให้เห็นว่ามันเริ่มตรงไหน ซึ่งตรงกับที่ผมคิดไว้เมื่อคืน หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเราก็กลับไปที่หมู่บ้านและพระท่านก็บอกผมว่า คุณไม่กลัว คุณอยู่ที่นี่มาสองคืนแล้วและคุณยังไม่กลัว พระหลายท่าน ที่หลวงตามหาบัวส่งมาหาเขา ไม่สามารถอยู่ได้ เกิน 1 คืน เขาได้ถามผมว่า ต้องการอยู่อีกสักคืนไหม ผมอยากจะบอกว่า “ได้” แต่ผมก็ต้องถามแฟนของผมก่อน เพราะผมเองก็รู้สึกดีที่ได้เรียนรู้ และได้เจอประสบการณ์แปลกๆ ซึ่งมันยังไม่ได้คุกคามผม และผมก็มีความยินดีที่ได้อยู่กับพระท่านนี้ในป่า มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ แต่ผมจำเป็นต้องคุยกับเธอก่อนเมื่อถึงหมู่บ้าน

โปรดติดตามตอนต่อไป ...

Love and Happiness

@ricko66

Sort:  

Wow, your story is unbelievable and amazing, I used to has the experience that someone hold my wrists and my ankles tightly. I tried to move but I couldn't and then I was angry because I was so tired and my mind was weak. Then I started to be clam and meditate and say Namo Tas Sa and that things gone but after a few minutes it came back again this time I thought I shouted to them that I was tired and I would not play this game and I showed them that I didn't afraid about them. Hahah it was an unexpected experience and I don't want to have it anymore. Wait for the next ep.

You experience happen to many people all around the world, they feel and in some case see a black shadow, they cannot move same as you as something hold them. Some cases are extreme, and science as well as parapsychology study this issues. One strange thing about it is most of the people that see the shadow, they always see the same three characters. It is strange. Thank You :)

พระพุทธเจ้าบอกว่าจิตรดวงหนึ่งเกิดขึ้นจิตรดวงหนึ่งดับไป อยู่ตลอดวันตลอดคืน

Thank You @prapanth, I also think this is true. It is the cycle of life. It keeps repeating in different manners. :)

ขอบคุณครับ คุณ @ ricko66

Very interesting experience and very scary!

Thailand and Thai culture is amazing, even today I keep feeling like a child learning more and more :)

You are being too kind! We also have many silly habits and unreasonable aspects of our beliefs!
I would like to see Thai people actually practicing what the Buddha taught, so that lots of superstitions could disappear.

I also know a little about the silly habits, and many seem to believe that make merits to the temple is enough to get sins away, but things do not work that way it is an inner work. Superstitions are big here and crazy stories also, mostly result of the movie industry, but there are many things to this world that can't be seen or explained.

Quite true, your observations!
It is not our culture to be able to accept truth or facts being put to us openly! So, Thai people get offended when someone speaks the truth which causes the person to lose 'face'.
The 'face saving' behaviour has become a real obstacles in getting rid of corruption at every level. This reflects our inner ego which is weak and has no strength to accept truth and statements of facts objectively.

This makes conferences, brain storming and discussion with Thai people very difficult. People cannot accept that they have limitations, they can be stupid on some subjects, they can be confused and they can be wrong on many things. So, there is no real progress or reform in Thai society.

If they are real practicing Buddhists, reading the texts and doing meditation, their mind and intellect would have become progressive with the respect for truth and honesty! Then corruption at all levels (lies, cheating, stealing, etc.) would gradually disappear. Everyone will find peace and happiness.

Thai society, especially in the modern age, has already forgotten about their roots, things go too fast and people see their practicing of Buddhism change as the social change. Most of them have no time to go in the wild or even in a good Temple (rare) and take the time to understand things out of the modern age realm just as a human being. The losing or saving face is a very big problem of Thai society making deads every year, many are too proud of their appearance but in the end, if something will ever survive it is not the appearance. I think it comes to their roots education and not trying to follow the mainstream education which is only lies and real education not come out from schools but from a personal search. Learning how to be a human is not taught in school but instead, they tell you how to be a good sheep that will stay in the group and follow the ideology. I think there is a lot to be taught about, many will not agree because they still follow the mainstream ideology even if thinking they are rebels, others will agree and mostly it will be people with a good life experience. It takes a lot to accept the truth.

People have been brain-washed by education system and televisions and main stream media.

Have a good week!

The mass manipulation had taken a big turn after สงครามโลกครั้งที่ 2 and since then it just keeps be bigger and dangerous for people. Thank You @kaminchan always a pleasure to talk with you :)
Regards.

เหมือนอ่านนิยาย เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ อ่านด้วยลุ้นด้วยว่าเอาไฟฉายส่องจะเจออะไรไหม

Yes, it can be read like a novel but it still is a real story. I have to make 6 or 7 posts to recall the whole story. It is not to make people afraid, but more about teaching. Thank You :)

สาธุครับ

ยินดีที่สุดครับ คุณ :)

เป็นประสบการณ์ที่ไม่ใช่ทุกคนจะมีได้เพราะแค่อยากมี มันต้องเป็นเหตุที่ลิขิตไว้แล้วให้คุณต้องมา มาพบ มาเจอ มารู้คำตอบ จากสถานที่แห่งนี้

ส่วนตัวเป็นคนที่เชื่อเรื่องนี้มาก ไม่เคยมีประสบการณ์ตรงอะไรมาก่อน ยกเว้นตอนที่คุณพ่อท่านเสียชีวิต และนับจากวันนั้น โลกแห่งการสัมผัสกับเรื่องของสิ่งเล้นลับก้อเปิด

ติดตามอ่านตอนต่อไป
@giantkidishere

Thank you very much @giantkidishere, sure it is a very strong experience and in my last post, I will tell what is my take on everything. I remember it like it was yesterday, this kind of experience not happen for nothing. But this story will take another turn and it was just "a kind of magic" and as Luangta Maha Bua told me "this is your magic". Every day of my life I always have a thought on these days as it was maybe the best ever learning experience of life. Thank You :)

Excellent post & Very interesting Content ,My Friend : )
Thank for great sharing ! All the amazing ,Keep up the great works .

Thank You, I am sure all of you also have many experiences to share :)

I clear on some points ricko66

Your post gives me goosebumps!

I also have goosebumps when I was in the forest but I have to say I never have the feeling to be threatened by things in this place and was really happy to be able to be there and experience by myself. :)

เป็นโพสต์ที่ยอดเยี่ยมค่ะ อ่านแล้วสนุก มากค่ะ
และในส่วนตัวก็นับถือ หลวงตามหาบัว มากค่ะ

Thank you very much @meow99, this was a great experience but it is not finished the story will take a turn to something really unexpected :)

เรื่องสิ่งลี้ลับนี้เชื่อค่ะ และก็ไม่อยากเจอเลย ถ้าเจอคงมีหวังจับไข้หัวโกร๋น

It is not bad to meet this mystery if it is not bad, only we are the one to be afraid of the unknown that we have to accept that it is part of our world. Thank You :)

Coin Marketplace

STEEM 0.17
TRX 0.15
JST 0.028
BTC 59425.55
ETH 2345.78
USDT 1.00
SBD 2.44