ตราบาปที่ไม่อาจลืม # Sin That Can Not Be Forgotten. {Pt.1}
Dear Steemian Friends.
Photo By @tookta
:::: เมื่อคืนก่อน เราได้ดู รายการ "คนอวดผี" จากยูทูป เราเห็นคุณริว พูดถึงเรื่อง การ
ทำแท้ง ในท้ายรายการ คุณริว มักจะพูด เหมือนเตือนสติ ซึ่งเป็น คติเตือนใจไม่ให้ผู้
หญิงทำแท้ง และ บาปกรรมต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้.....ฟังจาก ที่คุณริวพูด ดูเหมือนว่า
ผู้คนสมัยนี้ ไม่ค่อยเชือ ในบาปบุญ คุณโทษ กันสัก เท่าไหร่......พอได้ยิน คุณริวพูด
มันทำให้เรา คิดถึงเรื่องบาป เกี่ยวกับ การทำแท้ง เป็นอย่างมาก
:::: เราเองครั้งหนึ่ง ก็เกือบพลาด คือตอนนั้น เรายังเป็นวัยรุ่น ไม่ได้มีความคิด คำนึง
ถึงเรื่อง บาปบุญคุณโทษ สักเท่าไหร่.....คิดอยู่ อย่างเดียวคือ อยากจะช่วยเพื่อนให้
พ้นทุกข์ แต่โชคดี เหลือเกิน ที่ทำไม่สำเร็จ
:::: เรื่องก็มีอยู่ว่า......เย็นวันหนึ่ง เพื่อนสนิทของเรา มาหาเรา ถึงที่ทำงาน (ตอนนั้น
เราอายุ 16 ปี) เราจึงออกไป หาเพื่อน ที่หน้าโรงงาน เราสังเกตเห็น หน้าตาของนาง
เศร้าสร้อย และดู เป็นทุกข์ เป็นอย่างมาก เราจึง ถามนางว่า "เป็นไรวะ! ทำหน้าบอก
บุญ ไม่รับเลย" นางมองหน้าเรา แป๊บนึง แล้วหันหน้า ไปทางอื่น เราจึงนั่งลงใกล้กับ
นาง ที่ฟุตบาท สักพัก นางก็ พูดขึ้นว่า "มึงช่วยกูหน่อยได้มั๊ย?" เราถามนางว่า "เรื่อง
ไรวะ?.....มึงก็รู้จักกู ไม่ใช่เหรอ มึงถึงเลือก มาหากู" นางตอบว่า "กูโคตรกลุ้มใจเลย
ว่ะ...กูคิดว่า กูต้องท้อง แน่ๆเลย" เราตกใจมาก ที่ได้ยิน ประโยคนี้ "จริงเปล่าวะ? แน่
ใจเหรอ?" นางตอบว่า "เมนกู ไม่มา สองเดือนแล้ว เนี่ยย่างเข้าเดือนที่สามแล้ว" เรา
ถามนางว่า "แล้วมึง จะทำไงอ่ะ?" นางตอบ มาว่า "กูเอาไว้ ไม่ได้หรอก ช่วยหน่อยสิ
กูอยากเอาออก" เราถามนางว่า "อ้าว! แล้วแฟนมึงล่ะ มันว่าไงมั่ง?" นางตอบว่า "มัน
บอกว่า มันจะเอา แต่ลูก แต่มัน ไม่เอากู" เราอุทานว่า "เฮ้ย!หมายความ ว่าไงวะ?" ก็
หมายความ อย่างที่ กูบอก นั่นแหล่ะ" เราไม่พอใจ อย่างมาก "อะไรวะ ทำงี้ ได้ไง!?"
แล้วนาง ก็ร้องไห้โฮ........เราจึง พูดขึ้นว่า "ก็ได้ สิ้นเดือนนี้ เงินเดือน กูออก แล้วไป
Photo By @tookta
หาหมอกัน" นางเอา แขนเรา ไปกอด และพูดว่า "ขอบใจ นะโว้ย กูก็ ไม่รู้ จะหันหน้า
ไปหาใคร" หลังจากนั้นพวกเราก็ล่ำลากัน นางกลับไปทำงาน ส่วนเราก็เดินกลับเข้า
ไปทำงาน....แต่ในใจ ก็คิดว่า จะทำไงดี เงินสองวิคที่จะได้รับ สิ้นเดือนนี้ก็แค่ 3,700
บาท จะทำอะไรได้
:::: และแล้ว วันนั้น ก็มาถึง เรานัดกัน ที่ปากซอย แล้วก็ นั่งรถเมล์ ไปคลีนิกแห่งหนึ่ง
ด้านหน้า มีป้าย เขียนไว้ว่า "รับปรึกษา ปัญหา ครอบครัว" และก็อื่นๆ อีก หลายอย่าง
บอกตามตรง เลยว่า เรากลัว ที่จะเดิน เข้าไป ข้างในนั้นมาก แต่ก็ต้อง ทำใจ เดินเข้า
ไป พร้อมกับเพื่อนเรา.....พอเปิดประตูเข้าไป ก็มีผู้หญิงแต่งตัว เหมือนนางพยาบาล
นางถาม พวกเราว่า "มาทำอะไรหรือค่ะ?" เรามองหน้ากัน ดูเหมือนว่าเพื่อนเราอยาก
ให้เรา เป็นคนพูด เราจึง ตอบไปว่า "เอ่อ คือว่า เพื่อนเค้าท้อง แต่ยัง ไม่พร้อม ที่จะมี
ลูกในตอนนี้ค่ะ" แล้วนางพยาบาล ก็ให้เพื่อนเรา กรอกแบบฟอร์ม แล้วบอก ให้นั่งรอ
สักพัก นางก็ เรียกชื่อ เพื่อนเรา แล้วพยาบาล ก็พาเพื่อนเรา เข้าไปในห้องๆหนึ่ง สัก
พัก พยาบาล ก็ออกมา เรียกเรา ให้เข้าไป ในห้อง นั้นด้วย พอเราเข้าไป ก็เห็นเพื่อน
นั่งอยู่บนเตียง แล้วหมอก็บอกเราว่า "เพื่อนคุณตั้งท้องได้ เกือบสี่เดือนแล้ว มันค่อน
ข้าง จะอันตราย ถ้าจะเอาออก ก็ต้องนอน ที่นี่ และก็ จะมีค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้นด้วย" เรา
ถามว่า "เท่าไหร่เหรอคะ?" หมอตอบว่า "ทั้งหมดก็ 5,000 บาทค่ะ" เราหันไปบอกกับ
เพื่อนว่า "เรามีเงิน แค่ เท่าที่เห็น นั่นแหล่ะ" แล้วหมอ ก็พูดขึ้น มาว่า "อันที่จริง หมอ
ไม่อยากให้เอาออก หรอกนะ เพราะว่ามัน ค่อนข้างจะอันตราย พอสมควร" ดูเหมือน
ว่า เพื่อนเรา ก็เริ่มกลัว เหมือนกัน เราตัดสินใจ บอกกับ เพื่อนว่า "งั้นเรากลับกันก่อน
เหอะ จะเอาไง ก็ค่อยว่า กันอีกที"
โปรดติดตามตอนต่อไป ต้องขอโทษด้วยกับคำพูดที่ไม่สุภาพ
ขอบคุณทุกคะแนนโหวต + คอมเม้นท์ และกำลังใจที่มีให้กันตลอดมา
ความปรารถนาดี มีให้เพื่อนๆเสมอ
Much Love @tookta
จะรออ่านตอนจบนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
กำลังถึงไคลแม็กซ์เลยคุณตุ๊กตา 😅
ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจกันนะคะคุณ @katto
น้อยคนนักที่จะเจอเรื่องราวแบบนี้แล้วนำมาแบ่งปัน ขออ่านภาคต่อ ต่อไปเลยละกันค่ะว่าจะเป็นอย่างไร
ขอบคุณที่แวะเวียนมาให้กำลังใจกันอยู่เสมอนะคะคุณ @irinpps
ก็คงจะเหมือนอีกหลายๆครอบครัวมั๊งคะ มันจบไม่สวยเท่าไหร่ แต่เราปลื้มใจนะที่มีส่วนร่วมเลี้ยงเด็กคนนั้นจนโตเป็นหนุ่ม
This great looking photography, I appreciate this post