คุยเรื่อยเปื่อยในวันอาทิตย์

สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ ที่น่ารักทุกท่านนะค่ะ ... วันอาทิตย์นี้อากาศเริ่มกลับเย็นอีกครั้ง หลังจาก 2 วันที่ผ่านมามีฝนตกเล็กน้อย เป็นยังไงกันมังค่ะทุกคน สบายดีกันไหมเอ่ย ช่วงที่ผ่านมาติดภาระกิจเรียนและช่วยที่บ้านขายของอีกเช่นเคย เลยไม่ได้แวะเวียนเข้ามาในนี้สักเท่าไรค่ะ
ช่วงเมื่อ 2 3 ที่ผ่านมานั่งติดตามข่าวภาวะหมอกพิษที่กรุ่งเทพในบางพื้นที่ จนเค้าเอามาแซวว่ากรุงเทพก็มีหมอกกับเค้ามัง แต่อีกมุมหนึ่งเราคิดว่ามันก็เป็นเสียงสะท้อนถึงปัญหาของเรา และของโลกใบนี้ได้ดี
เราคิดว่าทุกคนหรือโลกใบนี้จะมีจุดสิ้นสุดที่ตรงไหน ซึ่งกว่าจะถึงตรงนั้นไม่รู้อีกปี ถ้าถ้าเราทุกคนในโลกยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มันก็เหมือนมะเร็งเนื้อร้ายภายในโลก ที่รอวันจะถึงจุดจบค่ะ
มานั่งคิดว่าเราคิดมากไปป่าวนะค่ะ กว่าจะถึงจุดนั้น ถ้าเชื่อว่าชาติหน้ามีจริง เราจะต้องเกิดอีกกี่ชาตินะ อิอิ เราควรทำวันนี้เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อสังคม และเพื่อประเทศ ตลอดจนโลกใบนี้ให้ดีที่สุด ตามขีดความสามารถที่เรามีก็พอ
เราคิดว่าถึงเราจะปลูกฝังตัวเราเอง และคนรอบข้างเราได้ ก็ยังดีกว่าไม่มีคนทำหรือ ไม่ได้เริ่มอะไรเลยให้กับโลกของเรา วันนี้มาอารมณ์แนวไหนนี้เรา ^^
วันอาทิตย์นี้คงไม่ได้ไปไหนทั้งวัน ส่วนน้องชาย 2 คนแอบหนีเที่ยงซะแล้วทิ้งพี่สาวอยู่บ้าน แต่เข้าใจค่ะ โดยเฉพาะน้องชายคนรองมีแฟนแล้วนี้น่า ก็มีบ้างเป็นธรรมดาของผู้ชาย ช่วงเย็นนี้ช่วยต้องช่วยพ่อแม่ตั้งร้าน ไม่รู้ได้บอกเพื่อนๆ ยังนะค่ะว่าที่บ้านของเราพ่อแม่ประกอบอาชีพขายอาหารตามสั่งช่วงเย็นๆ ถึงประมาณเกือบเที่ยงคืนค่ะ
ซึ่งทุกวันถ้าเราเลิกเรียนไวจะมาช่วยพวกท่านตั้งร้าน และอยู่ช่วยจนถึงแค่ 2 3 ทุ่ม ช่วงนี้ลูกค้าจะเยอะมากในช่วง 5 โมงเย็นถึงประมาณ 2 3 ทุ่มค่ะ หลังจากนั้นก็มีมาเรื่อยๆ แต่แม่จะให้เรากลับก่อนเพราะดึกโดยให้น้องชายเรามารับกลับค่ะ วันนี้เราคงมีเรื่องคุยกับพี่ๆ เพื่อนๆ แค่นี้ก่อนค่ะ ไว้วันหลังนึกเรื่องคุยได้จะมาเขียนให้อ่านอีกทีค่ะ
ก่อนจากกันเช่นเคยค่ะ ภาพดอกไม้ถ้าเราผ่านมาเห็นดอกไม้ตรงไหน เราชอบถ่ายเก็บไว้ถึงฝีมือถ่ายภาพเราจะไม่ได้เรื่องก็เถอะค่ะ แต่แค่เห็นดอกไม้เราก็รู้สึกสดชื่นแจ่มใสแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่โหวตให้เราในโพสต์นี้ค่ะ