Life in Sweden: ช่วงต้นเดือนมกราคมนี้จะว่าไปก็ยังมีกลิ่นอายของปีใหม่อยู่นะ หลายๆคนที่ปีที่ผ่านมาเจอสิ่งเลวร้าย ก็ขอให้ตัวเองเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งดี ส่วนใหญ่คนเรามักจะหาข้ออ้างในการเริ่มต้นอะไรใหม่ให้กับชีวิตก็ในช่วงเวลาปีใหม่นี่ล่ะ ภาษาอังกฤษก็คือ New year’s resolution ภาษาสวีเดนก็มีเหมือนกันคือ nyårslöfte ส่วนภาษาไทยยังหาคำจำกัดความสั้นๆ ไม่ได้เลย แต่ก็ได้ใจความประมาณว่าปีใหม่อยากเริ่มใหม่จริงจังตั้งใจจะทำอะไรบ้าง บางคนอยากจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยากพัฒนาตัวเอง อยากเล่นกีฬา ออกกำลังให้มากขึ้น เล่นเกมให้น้อยลง อยู่กับครอบครัวให้มากขึ้น อะไรก็ว่ากันไป

เอ๋เองผ่านมาหลายสิบปีไม่เคยมีความตั้งใจอะไรเป็นพิเศษเพราะว่ารู้ตัวเองว่าขี้เบื่อคงจะทำได้แป๊บๆ แล้วก็เลิก ก็เลยไม่อยากกดดันตัวเอง แต่มาปีนี้เข้าปี 2018 แล้ว อายุอานามก็จะใกล้หลักสี่อีก 2-3 ปีนี้ ร่างกายก็ไม่ค่อยจะไหวเหมือนเมื่อก่อน ปีนี้ก็เลยมีความตั้งใจจริงๆ ว่าอยากจะเริ่มออกกำลังกายให้มากขึ้นและกินอาหารที่มีประโยชน์ งดน้ำตาล ลดแป้ง จริงๆ ก็อยากจะลดน้ำหนักด้วยเพราะว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่ดูแลตัวเองทำให้ร่างกายย่ำแย่มาก ต้องดูกันต่อไปเพราะว่าเพิ่งผ่านปีใหม่มาได้แค่ 4 วัน เอาน่า เขาว่าเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

เรื่องสุขภาพและการออกกำลังกาย ก็อยากจะนินทาในทางที่ดีของชาวสวีเดนซักหน่อย คือมีคนกินมังสวิรัติเยอะมากๆ เลย คนรุ่นใหม่ก็จะไม่เคร่งศาสนา ส่วนใหญ่ก็นับถือตัวเอง อะไรที่ว่าดีก็ดี ก็ทำไป มีคนหลายๆ คนที่ทำงานด้วยกัน กินมังสวิรัติก็ถามเขานะว่าทำไม่อยากกินเนื้อสัตว์ เขาก็บอกว่า ….ชั้นคิดว่าการกินเนื้อสัตว์เป็นการทำร้ายพวกมัน เออก็จริงใช่มะเราก็เห็นด้วย แต่ตัวเองก็ยังไม่มีจุดเปลี่ยนที่จะเลิกกินเพราะว่ายังอร่อยอยู่นะสิ ชีวิตนี้จะขาดหมูกะทะได้อย่างไร

นอกจากนี้ตามร้านค้านะจะมีโซนขายอาหารออแกนิคที่เยอะมากด้วย ซึ่งราคาไม่ได้สูงเว่อร์แต่ถามว่าซื้อมั้ย ตอบเลยซื้อ….น้อยมากกกก เพราะยังไงราคาปกติเอ๋ก็ว่ามันแพงอยู่ละ อย่างที่รู้ว่าค่าครองชีพต่างประเทศก็จะสูง อันไหนไหวก็ซื้อไม่ไหวก็รอก่อนรอก่อน จะว่าไปกินแล้วความรู้สึกมันก็ไม่แตกต่างกันนะ บางที่ออแกนิครสชาตแย่กว่าด้วยซ้ำ ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ

เรื่องออกกำลังกายก็สำคัญ คนที่สวีเดนนะ ออกกำลังกายเยอะมาก ชอบมีกิจกรรมกลางแจ้ง ชอบเดิน ชอบชวนไปเดินเล่น ชอบชวนไปนั่งตากแดด อย่างว่านะ หน้าร้อนปีนึงตามปฏิทินมี 3 เดือน ร้อนจริงๆจะถึง 2 อาทิตย์รึเปล่าก็ไม่รู้ พอมีแดดออกมาหน่อยผู้คนก็สดชื่น ออกนอกบ้านมากขึ้น แต่งตัวมีสีสันมากขึ้น จะว่าไปเอ๋อยู่นี่มาเกือบ 10 ปีแล้วก็ยังไม่ชอบแดดเหมือนเดิม ก็ตามนิสัยคนไทยเนอะ ชอบอยู่ที่ร่มๆ มากกว่า เวลาไปตามชายหาด ต่อให้คนเยอะแค่ไหนก็มักจะมีที่สำหรับเราเสมอ เพราะว่าฝรั่งไปนั่งกลางแดดกันหมดเหลือแต่ที่ร่มๆ ให้ ดีจริงๆ

หนุ่มๆ สาวๆ ที่นี่ออกกำลังกายกันหนักนะ สังเกตแต่ละคน ไม่ใช่เล่นๆ เลย กล้ามบึ้มๆ ซิกแพคล้วนๆ หุ่นดีๆ น่ารักกันทั้งนั้น ก็คิดดูสิ ปีนึงร้อน 3เดือน แล้วหนาวอีก 6 เดือน อากาศแบบงงอีก 3 เดือน วันร้อนจริงๆ ก็อย่างที่บอกแค่ 24-25 องศาก็ออกข่าวใหญ่โตแล้ว ดังนั้นเวลาที่เก็บตัวเงียบๆ จะเยอะมาก ก็เลยเอาไปเวลาไปออกกำลังกายดีกว่าว่างั้น และอีกอย่างสวัสดิการของที่ทำงานแต่ละทีดีมาก แต่ละบริษัทมีบังคับเลยว่าต่อปีต้องให้พนักงานเท่าไหร่ เพื่อให้พนักงานเอาไปใช้ดูแลสุขภาพร่างกายตัวเอง เช่นไปเล่นโยคะ เข้าคอร์สว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค เอาไปนวดผ่อนคลาย อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับร่างกาย แต่ไม่ใช่เอาไปเสริมสวย ไปตัดผม ทำเล็บแบบนี้เบิกไม่ได้นะ ใช้อะไรเท่าไหร่ก็เอาบิลไปเบิกบริษัทจบ ส่วนใหญ่ก็จะเอาไปซื้อบัตรฟิตเนสกันนั่นแหละเป็นรายปี ถ้าเราไม่ใช้สวัสดิการตรงนี้เราก็ไม่ได้เงินคืนนะ ดังนั้นเราต้องใช้เพื่อประโยชน์ของเราเอง เอ๋เองทางบริษัทให้ 1500 โครนสวีเดน แต่ที่ฟิตเนสราคา 2000 โครน ส่วนต่างก็ต้องจ่ายเอง เทียบแล้วเกินคุ้ม ออกเอง 500 โครน เงินไทยก็ 2000 บาทเองโห ปีนึง 12 เดือน ตกเดือนไม่ถึง 200 บาทเลย อันเรื่องความคุ้มไม่คุ้มนี่ละที่จะมาบั่นทอนให้เราคิดว่าโห ซื้อมาถูก ไปปีละ 2 ครั้งก็คุ้มละไม่ได้ ดังนั้นตั้งใจเต็มที่ ไปออกอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วันให้ได้

แล้วเพื่อนๆ ละมีความตั้งใจที่อยากจะทำจริงจังโดยใช้ปีใหม่เป็นเกณฑ์เวลาในการสร้างแรงจูงใจเพื่อเริ่มต้นทำอะไรให้กับตัวเองกันบ้าง

---

ติดตามบทความถัดไป
Chili เรื่องพริกพริก

ติดตามบทความก่อนหน้า
Life in Sweden: What is your favourite room in your home and why? ห้องสุดโปรดของฉัน และของคุณล่ะ

Thank you for upvoting and following ขอบคุณทุกๆคะแนนและการติดตาม
@livemylife