สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน

ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีอะไรใหม่ๆ มาเยอะแยะเลย ทำให้การเรียนรู้เพื่อปรับตัวเองให้ทันยุคทันสมัยนั้น มันมีอยู่ตลอดเวลา ^^ @julee พี่กุ้งเป็นคนแนะนำให้ผมมาใช้งาน steemit ซึ่งในตอนแรก มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมมากๆ เลย ^^ ในตอนแรกเลยนั้น ผมก็สองจิตสองใจอยู่นะ เพราะปกติก็ใช้เวลาในการโพสต์ผลงานเพื่อหางานบนเฟสบุ๊คอยู่แล้ว ^^ จึงคิดว่า ถ้าจะมาโพสหาลูกค้าใหม่บน steemit คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะแน่ๆ เพราะในตอนแรกเลยเนี่ย ไม่ได้คิดว่าผลตอบแทนมันจะมากมายอะไร

จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว บริหารเงินผิดเว้ยเฮ้ย ถึงคราวซวยเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในตอนนั้นลองตัดสินใจเบิกเงินที่ steemit มาใช้ครับ วันนั้นต้องใช้ด่วนมากเลย ^^ (ตอนนั้นเบิกครั้งแรกครับ ซึ่งผมยังโพสต์บน steemit ได้ไม่ถึงเดือนเลย แต่ก็เกือบๆ จะครบเดือนแล้วละ มีอยู่ 32-33 สตีมดอลล่ามั๊ง ถ้าจำไม่ผิด) วันนั้นเบิกได้มา 2,000 บาทครับ ใช้เวลาดำเนินการจาก 6 โมงเช้า 10:30 เอง (ตอนนั้นก็รู้สึกงกนิดๆ อยู่ครับ เพราะก่อนที่จะเบิก ผมแบ่งไปใส่สตีมพาวเวอร์ไปครึ่งหนึ่ง ก็เลยเหลืออยู่แค่ 17-18 สตีมดอลล่าเอง แถมเบิกในช่วงที่ค่าสตีมดอลล่าลดลงด้วย ^^ ใจนี่อยากลดพาวเวอร์เพื่อมาเบิกเพิ่มเลยครับ ^^ แต่คิดว่า แค่ 2,000 น่าจะพอใช้จนกว่าจะถึงวันนี้แน่ๆ พอดีวันนี้มีงานถ่ายภาพแบบได้ตังค์หลังจากจบงานเลย)

วันนั้นได้เรื่องราวไปขี้โม้ บนเฟสบุ๊ค 1 หน้ากระดาษ A4 เลยครับ ^^ จนเพื่อนๆ บนเฟสบุ๊คผมก็สนใจ จนผมเองเนี่ยตอบคำถามในช่องแชทเพื่อตอบทุกคนไม่ได้เลยทีเดียว ^^

บทความนี้ ผมก็เลยลอกไอ้ที่โพสต์ไปบนเฟสบุ๊คนี่แหล่ะครับ เอามาเล่าสู่ฟัง ^^ บนเฟสบุ๊คของผม 1 บนเฟสบุ๊คของผม 2 จนเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊คห่วงว่า เราจะหายไปจากเฟสบุ๊คเลย เพราะเดี๋ยวนี้ นานๆ จะโพสต์เฟสบุ๊คครั้งสองครั้งครับ ^^ ก็โพสต์แค่หางานฟรีแลนท์จากเฟสบุ๊ค จะไปโพสต์อะไรมาก อิอิอิอิ

สำหรับผมแล้ว เท่าที่อ่านโพสต์ของคนไทยที่เป็นเพื่อนกันใน steemit ทุกคน ^^ ผมพอจะตีความได้ว่า steemit เป็นบล็อกเชน หรือบล็อกระบบห่วงโซ่หรือลูกโซ่ เป็นลูกโซ่ระบบอังกอลิธึม ซึ่งตอบแทนค่ากดโหวตให้เป็นเงินดิจิตอล สกุล steem หรือ steem dollar ซึ่งในตอนนี้ร้านค้าที่รับซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าด้วยเงินดิจิตอลนั้นยังมีน้อยอยู่ และสำหรับสกุลสตีมนั้นก็ยังมีน้อยมาก ^^ แต่ที่แน่ๆ ร้านค้าแถวบ้านผมเนี่ย เขารับเป็นเงินจริงเป็นเงินบาทครับ ^^ ผมก็เลยต้องเอาไอ้เงินดิจิตอลเนี่ยมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท ผ่านทางธนาคารดิจิตอล (เรียกงี้มั๊งผมก็เรียกไม่ถูกซะด้วยซิ) ซึ่งในขั้นตอนแลกเปลี่ยนนั้นมันก็อาจจะยุ่งยากนิดนึง แล้วถ้าใครอยากได้กำไรเพิ่มขึ้น ก็ต้องใช้ความรู้เรื่องการซื้อขายเงินดิจิตอลเข้ามาช่วยด้วยนิดนึง ^^

แต่มันก็ไม่ใช่ที่ ที่จะมาโพสต์แล้วบังคับขู่เข็ญ คนมากดโหวตให้เพื่อได้ตังค์ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ แล้วจะโพสต์ใน steemit อย่างไรให้ได้ตังค์ ^^ ผมขอบอกเลยครับว่า "ผมเอง ผมก็ไม่รู้ครับ" ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คือ อย่างเรื่องปกติที่ผมเอามาโพสต์เนี่ย ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเรื่องเล่าทั่วๆ ไป ก็มีเกร็ดความรู้แซมๆ บ้าง แนะนำอาหารบ้างได้แต่แนะนำเพราะทำไม่ค่อยเป็นครับ อิอิอิ เรื่องเที่ยวบ้างซึ่งอันนี้เยอะเลย แล้วก็มีเรื่องในชีวิตประจำวันบ้าง ซึ่งก็แล้วแต่ที่ผมจะนึกออกในช่วงนั้นครับ ^^ ซึ่งโดยปกติผมใช้เวลาแต่ละวันในการโพสต์ที่สตีมแค่วันละหนึ่งชั่วโมงถึงครึ่งชั่วโมงเองครับ เมื่อแบรนวิดท์หมด ผมก็ทำอะไรใน steem ไม่ได้แล้ว พอทำอะไรใน steemit ไม่ได้ ผมก็ไปทำงานอย่างอื่นซิครับ ^^ ปล่อยให้โพสต์ที่โพสต์ไว้ทำหน้าที่ของมันไป ^^ ซึ่งแต่ละโพสต์ที่ได้โพสต์ลงไปใน steemit นั้น มันมีเวลาในการทำงานของมันอยู่เจ็ดวัน พอครบเจ็ดวันถึงจะได้ค่าตอบแทน ^^ ซึ่งมันก็ดีนะ ไอ้ผมก็เลยสามารถเบิกได้ตลอดครับ ถ้าเกิดหักค่าธรรมเนียมต่างๆ ออกไปแล้วมันเหลือพอได้เบิกนะ ซึ่งถ้ามันเหลือแค่ห้าบาทมันก็เบิกได้ครับ แต่ ATM จะให้กดเบิกได้รึเปล่า นันอีกเรื่องหนึ่งครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ^^

แต่ที่แน่ๆ โพสต์ผมเน้นไปที่รูปถ่าย ซึ่งเป็นรูปถ่ายที่ผมถ่ายอย่างมีคุณภาพและสวยสดงดงาม ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อันนี้ตั้งใจชมตัวเองเลยครับ อิอิอิอิ (นานๆ ที อย่างวันนี้ ผมก็จะเอากราฟิกที่ผมทำมาโพสต์สักที) ^^ แล้วผมเองก็โพสต์เป็นภาษาไทยบ้าง หรือภาษาอังกฤษที่แปลจากกูเกิ้ลบ้าง ^^ ซึ่งใน steemit ก็จะมีชุมชนคนไทยอยู่จำนวนหนึ่งที่ใช้งาน steemit อยู่ คนไทยทุกคนเขาอ่านภาษาไทยออกครับ แต่ steemit ส่วนมากแล้ว ก็จะคนจากทั่วทุกมุมโลกครับที่จะเห็นโพสต์ของเรา ซึ่งปัจจุบันนี้ระบบการแปลภาษา มันก็พัฒนาขึ้นเยอะแล้ว ซึ่งถ้าเขาสนใจในรูปสวยๆ ที่โพสต์ไป เดี๋ยวเขาก็อยากทราบความหมายของข้อความที่เราโพสต์ แล้วเขาก็จะไปหาวิธีแปลเอาเองครับ ^^ อันนี้เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานครับ เพราะชอบก็อปปี้ข้อความภาษาต่างประเทศไปแปลในกูเกิ้ล ^^

แต่สำหรับเพื่อนบางคน...ซึ่งอันนี้ผมเอาเรื่องจริงมายกตัวอย่างเป็นเรื่องตลก ไม่ต้องไปคิดมากนะครับผม แค่ขำๆ อิอิอิ ^^

คือบางคนเนี่ย เขาเล่าเรื่องไปเที่ยวสวนสัตว์ "นี่ครับกรงเสือโคร่ง" "นี่ครับหมีแพนด้า" ^^ คือไอ้ทั้งสวนสัตว์ที่ถ่ายมาเนี่ย สัตว์มันตัวเท่านิ้วก้อยเอง ส่วนที่เหลือนี่ หน้าเจ้าของโพสต์ทั้งนั้นเลยครับ จนในความคิดลึกๆ ก็คิดนะว่าทำไมไม่ไปถ่ายที่กรงพุดเดิ้ลบ้าง "เนี่ย หมาพุดเดิ้ลครับ" ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ^^

แต่บางคนที่เจ๋งๆ ก็แคปเจอร์หน้าจอคอมฯ แนะนำการใช้งานโปรแกรม, ความรู้ในเรื่องต่างๆ, หรือแนะนำวิธีการเลือกเสื้อผ้า, สูตรอาหารต่างๆ พร้อมรูปวิธีทำก็มีครับ อ้อฝรั่งบางคนแต่งนิยายก็มีครับซึ่งก็เข้าไปอ่านอยู่ แต่กูเกิ้ลมันแปลได้งงมากๆ เลย ^^

ซึ่งในปัจจุบันนี้ มันก็มีหลากหลายเรื่องราวที่เราสามารถหยิบจับเอานำเสนอได้ครับ ^^ ซึ่งถ้ามีคนมาดูมาอ่านแล้วเขาชอบ เขาจะกดโหวตให้เองครับ (ถ้าพาวเวอร์ถึงนะ) ^^ แล้วก็คนไทยเท่าที่รู้จักในสตีมนั้น ก็มีทั้งนักเรียนนักศึกษา จนถึงคนรุ่นเกษียรอายุราชการเลยครับ ^^

ทีนี้ไอ้ระบบห่วงโซ่ที่ว่านี้ มันก็ทำงานเป็นการจัดระบบแบนวิดท์ ซึ่งการโพสต์ โหวต คอมเม้นต์ มันจะจัดสรรค์การใช้งานให้เรามาเป็นแบนวิดท์ให้เราทั้งหมด ^^ ดังนั้นลูกค้าของผมไม่ต้องห่วงเลยว่า ผมจะมัวมาหมกมุ่นอยู่แต่กับ steemit ^^ ผมโพสต์ใน steemit แค่วันละโพสต์เองครับ คอมเม้นต์ได้นิดหน่อย โหวตได้ไม่กี่คน แบนวิดท์ของผมมันก็หมดเสียแล้วครับ ^^ เวลาที่ผมใช้งานบน steemit ของผมจึงไม่นาน ^^ พอผมหมดแบนวิดท์หมดแรงโหวต ผมก็ต้องหยุดพักเพื่อรอแบนวิดท์ ^^ บางทีก็รอกันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว ^^ ผมเลยมีเวลาทำงานต่างๆ ที่รับจ็อบมา ได้อยู่ครับ ^^ อีกอย่างคนที่มาโหวตให้ผม ก็ไม่ต่างกันครับเป็นเหมือนกัน ดังนั้นผมจะโพสต์ใน steemit แค่วันละโพสต์เอง โพสต์เป็นเรียงความที่สุดยอดของเราในแต่ละวันก็พอแล้วครับ ^^

แต่ที่ steemit นั้น มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งครับ ค่าโหวตนั้นมันมีผลมากเลยทีเดียว คือถ้าเราโพสต์เรื่องราวดีๆ และใช้ถ้อยคำที่สุภาพ เราก็มีโอกาสได้โหวตหรืออาจจะไม่ได้โหวตครับ (ถ้าอยากได้โหวต ให้มาซื้อเอาแถวๆ บ้านผมนะครับ ร้านใหนมีพิณมีแคนขาย ร้านนั้นก็มีโหวตขายครับ อิอิอิอิอิ) ^^ แต่ถ้าเกิดมีการติดธงขาวกันเกิดขึ้น ซึ่งโดยมากอาจจะเกิดจากการด่าทอกันหรือนำเสนอเรื่องราวที่ไม่ดี มันก็อาจจะเกิดการมีชื่อเสียงติดลบ จนถึงขั้นถูกปิดแอ็คเค้าท์ครับ ^^ ส่วนเรื่องการสมัครใหม่เนี่ย บางทีมันก็ต้องมาเริ่มใหม่ ทำใจหน่อยนะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

แล้ว steemit ก็ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ หรืออะไรที่เราต้องลงทุนใช้เงินจริงๆ ซื้อคอมฯ แรงๆ มาขุดบิทคอยท์ครับ ไม่ต้องไปลงทุนจ่ายเงินจริงๆ เพื่อแลกเหรียญดิจิตอลแล้วก็มานั่งเฝ้าคำนวนเกร็งกำไรราคาในตลาดเหรียญครับ ^^ นี่เป็นการลงทุนด้วยบทความของเรา เพื่อเขียนให้คนมาอ่านครับ ^^ มันสามารถพัฒนาการเขียนเรียงความของเราให้ดีขึ้นด้วยนะครับ ^^

วันนั้นผมก็เล่าๆ ไป ประมาณนี้แหล่ะครับ ^^ ผมขอตัวไปรอถ่ายงานแต่งงานในช่วงค่ำก่อนนะครับผม ^^ อ้อ แล้วคุณอยากสัมผัสค่าตอบแทนดิจิตอลมั๊ยละ ผมเอาไปซื้อก๋วยจั๊บกินมาแล้วนะครับ ดิจิตอลมันสัมผัสได้ (แต่ถ้ามันเสียบปลั๊กอยู่ ก็ควรใส่รองเท้ายางหนาๆ ก่อนจะสัมผัสนะครับ อิอิอิอิ) ^^
.
เกือบลืมครับว่า ถ้าเกิดไปลอกบทความของคนอื่นมาเขียน "ชีต้าร์" บน steemit สามารถตรวจจับได้ครับแล้วโพสต์นั้นก็จะไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลยจาก steemit ^^ ซึ่งในโพสต์นี้ ผมเองก็ไม่รู้จะโดนมั๊ย เพราะลอกบทความบนเฟสบุ๊คตัวเองเอามาเขียนใน steemit ^^

---

ลิงค์วิธีลงชื่อสมัคร การใช้งาน
https://steemit.com/thai/@tookta/pt-1
https://steemit.com/thai/@tookta/pt-2

ลิงค์วิธีลงชื่อสมัคร การใช้งาน
ของคุณ @suerisue @laddawan @kanokwan