เรื่องราวชีวิตตอน"ทำทุกอย่างเพื่อเงิน"
ทำทั้งไร่ทั้งนามาเรื่อยเรื่อย
ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนไม่เคยบ่น
โชคดีแล้วที่ได้เกิดมาเป็นคน
ต้องอดทนมุ่งมั่นฝ่าฟันไป
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ก็มาพบกันอีกเช่นเคยนะคะ กับเรื่องราวชีวิต
หลังจากที่เราซื้อรถมอเตอร์ไซด์แล้ว จะเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกสบายขึ้น แต่ถ้าเป็นระยะทางใกล้ๆเราก็จะปั่นจักรยานไป ช่วงนั้นลูกทั้งสองยังเล็กอยู่ อายุห่างกัน3ปี ค่าครองชีพก็ยังไม่เท่าไหร่
พอช่วงฤดูทำนา เราก็ปักดำจนเสร็จ ส่วนไร่อ้อยก็ฉีดยาฆ่าหญ้าพร้อมใส่ปุ๋ยเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ไม่มีอะไรทำ สามีมีเพื่อนขับสามล้อรับจ้าง เขาจึงได้พูดคุยกับเพื่อนถึงรายได้ ในที่สุดเราจึงตัดสินใจซื้อสามล้อด้วยเงินสดในราคาสามหมื่นกว่าๆ ซึ่งเป็นรถสามล้อมือสอง สามีจะไม่ชอบซื้อเงินผ่อน
เขาจะเก็บหอมรอมริบจนคิดว่าถ้าจะซื้ออะไรแล้วจะต้องไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง
การขับสามล้อรับจ้างต้องตื่นตั้งแต่ตี2 ระยะทางที่เขาวิ่งไปเอาคิวที่อำเภอ8กิโลเมตร ซึ่งกว่าจะถึงตัวอำเภอก็ต้องผ่านหมู่บ้านบ้าง ป่าบ้างและทุ่งนาบ้างสลับกันไป เขาเป็นคนกลัวผีอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อครอบครัว เขาจึงจำต้องฝืนใจเอาชนะความกลัว
มีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่เขาขับสามล้อเพื่อจะไปรับจ้างที่อำเภอ ตอนนั้นเขาวิ่งออกจากหมู่บ้านมาถึงทางแยกเข้าไปวัดป่า ซึ่งวัดแห่งนี้จะเป็นสถานที่เผาศพของคนในหมู่บ้าน เวลาในขณะนั้นตี2กว่าๆ ฉับพลันนั้นเอง! เขาก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อสายตาของเขาเหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มๆกำลังเดินมา เงานั้นเป็นผู้ชายร่างผอมสูง เอาเสื้อพาดบ่า เขาคิดในใจว่าถ้าเป็นผีมันจะไม่มองหน้าคน พอชายคนนั้นจะเงยหน้าขึ้นมา เท่านั้นแหละเขาก็รีบจ้ำอ้าวโดยไม่คิดชีวิต...
พอไปถึงอำเภอ เขาจึงนำเรื่องนี้ไปเล่าสู่เพื่อนๆฟัง
เขามาทราบภายหลังว่าผู้ชายที่เขาเห็นนั้นไม่ใช่ผี
ผู้ชายคนนั้นกำลังเดินไปขึ้นอ้อย ซึ่งช่วงนั้นเป็นหน้าตัดอ้อยเข้าโรงงาน การขึ้นอ้อยหมายถึงการโยนอ้อยขึ้นใส่รถบรรทุกนั่นเอง มีคนเล่าว่าเขาจะเดินอยู่อย่างนี้ประจำทุกวัน ด้วยช่วงนั้นอากาศร้อนเขาจึงถอดเสื้อ สามีได้ฟังเช่นนั้นจึงค่อยโล่งอกไป
การขับสามล้อรับจ้างเริ่มแรกก็ต้องเสียค่าคิวให้กับชมรมสามล้อ3,000 บาทครั้งเดียวจบ และเสียรายเดือนให้กับตำรวจเดือนละ20บาททุกคน เพื่อให้ตำรวจดูแลและรักษาความสงบให้กับชมรมสามล้อ สำหรับรายได้ก็พอได้เก็บบ้างนิดหน่อย ส่วนฉันก็จะไปรับเศษผ้ามาเย็บผ้าเช็ดเท้า ถ้าช่วงไหนสามีว่าง เขาก็จะมาตัดผ้าเป็นชิ้นให้ เพื่อจะได้งานเร็วยิ่งขึ้น
การเย็บผ้าเช็ดเท้า อันดับแรกที่จะต้องทำคือตัดผ้าที่จะใช้รองผ้าชิ้นเล็กๆ เล้วแต่ว่าเราจะชอบแบบไหน ซึ่งฉันทำ3แบบคือรูปวงกลม วงรีและรูปหัวใจ
)
)
ผ้าที่ใช้รองจะเป็นนผ้าสีขาวหนา แต่ก่อนจะเย็บเราจะต้องนำมาทำให้แข็งก่อน โดยนำผ้าไปแช่ในน้ำต้มข้าวเพื่อให้ผ้าแข็ง แล้วค่อยนำไปเย็บ การเย็บต้องเย็บจากรอบนอกเข้าไปหาจุดศูนย์กลาง
พอเย็บเสร็จแล้ว ฉันและเพื่อนๆก็จะนำไปส่งให้คนที่เราไปรับผ้ามา ซึ่งมาคำณวนดูแล้วได้วันละไม่ถึง100บาท เราขายส่งผืนละ9บาท จากนั้นเขาก็ไปขายผืนละ15-25บาท จะว่าไปแล้วคนที่ทำหลังขดหลังแข็งไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำ
ฉันทำอยู่หลายเดือน ถึงแม้ว่าจะได้น้อยนิดก็ต้องทำ ดีกว่าอยู่เฉยๆ ส่วนรายได้ของสามล้อก็ตกวันละ100-300บาท ซึ่งก็เอาแน่นอนไม่ได้ บางวันฟรุคได้500-600บาทก็มี แต่นานๆครั้งจะเจอที อย่างเช่นหน้าสงกรานต์ คนจะกลับบ้านกันเยอะ ซึ่งตอนนั้นผู้คนจะไม่ค่อยมีรถส่วนตัวเหมือนสมัยนี้ ส่วนวันที่ไม่ได้เลยก็มี หรือบางวันก็ได้แค่20-50บาท สรุปแล้วก็คือพอได้ใช้จ่ายและเหลือเก็บบ้างนิดหน่อย
พอถึงหน้าเกี่ยวข้าวเราก็จะหยุดงานตรงนั้นไว้ พอเสร็จจากเกี่ยวข้าวก็จะถึงหน้าตัดอ้อย ส่วนค่าบริการรายเดือนๆละ20บาท เราก็จะจ่ายทุกเดือน เผื่อมีโอกาส สามีก็จะมาขับรับจ้างอีก
เรื่องราวชีวิตยังไม่จบ โปรดรอติดตามตอนต่อไปนะคะ
ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจจากเพื่อนๆที่ให้ความอบอุ่นด้วยดีเสมอมา
Thank you for visiting my post and follow me.
Love you all.
คุณลุงกับคุณป้าขยันและสู้ชีวิตมากๆ ค่ะ สู้ต่อไปนะคะคุณป้า
ขอบใจกำลังใจดีๆจ้ะเหมียว
สู้ๆคะพี่นาง
ขอบคุณค่ะ
พี่นางและสามีเป็นคู่ชีวิตที่ขยันขันแข็งอดทนและใช้สอยประหยัดมากค่ะ รอติดตามชีวิตของพี่นางและสามีไปเรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณค่ะคุณวิ
ผมนับถือในความขยันหมั่นเพียรของคุณป้าและคุณลุงจริงๆครับ
ถ้าหนุ่มสาวสมัยนี้ทำได้เหมือนอย่างคุณป้ากับคุณลุงก็คงจะดีไม่น้อย
รอติดตามเรื่องราวที่ดีของคุณป้าและคุณลุงอยู่นะครับ ^^
ขอบคุณครับเบียร์