ความประมาท

in #thai5 years ago (edited)

20191005_184647.jpg

สวัสดีค่ะเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน
#บทเรียนสำหรับการท่องเที่ยวในครั้งนี้
กลับมาถึงเมืองไทยแล้วค่ะ (นครโฮจิมินห์)
วางแพลนที่จะไปเที่ยวเวียดนามทั้งครอบครัวเราเดินทางด้วยเครื่องบินนั่งเครื่องจากสนามบินตรังไปสนามบินดอนเมือง จากนั้นพักที่กรุงเทพฯ 1 คืน รุ่งเช้าต่อแท็กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ
ขึ้นเครื่องจากสุวรรณภูมิ ไปสนามบิน ดาลัด (เวียดนาม)
เมื่อถึงสนามบินเรียบร้อยก็ เดินทางต่อ ด้วยรถ ประจำทาง ไปยังในเมืองดาลัดซึ่งทุกอย่างได้จัดเตรียมจองห้อง พักไว้ล่วงหน้าทุกอย่างและทุกสถานที่ที่จะเข้าพัก โดยจ่ายเงินล่วงหน้า ไว้ทั้งหมด รวมถึง ค่าเครื่องบินไปกลับ ด้วยค่ะ

ค่าเครื่องบินตรัง-กรุงเทพ= 6,120 บาท จำนวน 6 คน

ค่าเครื่องบิน สุวรรณภูมิ-ไปดาลัด= 10,885 บาท จำนวน 6 คน

1.พักที่ดาลัด 03/10/2019 - 05/10/2019
โรงแรม DaLat Hang Kga 2คืน = ราคา 2529 บ.
จากนั้นก็เหมาแท็กซี่ ขับจะดาลัดไปญาจาง ราคา 2,000 บาท

  1. ที่พัก Nha Trang Sunrise Ocean View Apartment : 05/10/2019 - 07/10/2019 : 2 คืน= ราคา 2,936 บ.

20191005_202930.jpg

3.ที่พัก HoiAn : Mrs Cuorg Thinh Homestay
07/10/2019 - 08/10/2019 :1 คืน ราคา 868 บ.

  1. ที่พัก Da Nang : Mercure Danang French Village
    Banana Hills : 08/10/2019 -09/10/2019 : 1 คืน
    ราคา 7482 บาท

5.ที่พัก Da Nang : Pavilion Hotel:
09/10/2019 - 10/10/2019: 2 คืน 5945 บาท

ค่าเครื่อง ตอนกลับราคา11954 บ.

มีเรื่องรางเพื่อจะเขียนเตือนภัยเผื่อเพื่อนๆท่านใดจะไปเที่ยว เวียดนาม
เราไปเที่ยวแบบครอบครัวไปกัน 6 คน วันแรกที่ไปถึงคือเมืองดาลัดที่นั่นอากาศเย็นมาก ที่ห้องพัก มีน้ำอุ่น ให้เรียบร้อยค่ะมีพัดลมให้แต่ไม่มีแอร์เพราะอากาศเย็น 18 องศา ซึ่งถือว่าอากาศหนาวมาก ฉันและครอบครัวพักที่นั่น 2 คืนตื่นเช้ามาของวันที่ 2 ก็เหมารถแท็กซี่ที่นั่นด้วยราคา 1,500 บาท ในเวลา 1 วันซึ่งคุณขับแท็กซี่ อัธยาศัย ดีมากพาพวกเราไปเที่ยวหลากหลายสถานที่ และแต่ละสถานที่ก็สวยงดงามมากๆ แต่ละสถานที่ การเข้าชมก็ต้องเสียเงิน เป็นจุดไปค่ะ ไฮเดรนเยียการ์เด้น ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท โรลเลอร์โคสเตอร์ คนละ 200 บาท .วัดLinh Phuoc Pagoda ชมวัด เข้าฟรี
พอตกเย็นก็กลับมาที่พัก พวกเราก็อาบน้ำแต่งตัว เราก็เดินชม สถานที่ท่องเที่ยวในยามค่ำคืน เหมือนถนนคนเดินบ้านเรานี่แหละค่ะ อาหารและสินค้าก็จะแตกต่างจากบ้านเรา ราคา มีทั้งแพงกว่าบ้านเราและถูกกว่าบ้านเราหลากหลายชนิด เอาเป็นว่าข้ามจาก สิ่งของ ก็แล้วกันค่ะ จากนั้นเราก็กลับที่พัก ตื่นเช้ามาก็นัดแท็กซี่คันเดิมเพื่อจะเดินทางไปที่ เมืองญาจางโดยการเหมาแท็กซี่ ไปในราคา 2,000 บาท
เราเดินทางตั้งแต่ตอนเช้าไปถึงเมืองญาจาง ตอนเที่ยง เราก็พาคนขับแท็กซี่ไปทานอาหารมื้อเที่ยงด้วยกัน เมื่อทานอาหารเสร็จ คุณขับแท็กซี่ก็ขับไปส่งที่ห้องพัก โดยเรา จองห้องพักชั้นที่ 40 ของโรงแรม เมื่อเก็บของเรียบร้อยก็ลงมา หาแท็กซี่ คันที่เราเหมามา คนขับ Taxi ก็พาเราไปเที่ยวต่ออีก 1-2 สถานที่ รวมถึงไปเที่ยวตลาดดำมาร์เก็ตซึ่งที่นั่นมี ซึ่งที่นั่นมี สินค้ามากมาย จากนั้นก็ไปเที่ยวต่อกันที่ โบสถ์คาทอลิก จากนั้นก็แท็กซี่ขับกลับ ดาลัด.. ฉันและครอบครัวก็ตัดสินใจกลับ โดยเมารถแท็กซี่คันอื่นกลับจากโบสถ์ไปตลาด ที่ตลาด ดำมาเก็ตอีกครั้ง เดินซื้อของกันจนเหนื่อย จากนั้นก็ หาซื้อน้ำเราทานกัน น้ำเปล่าขวดเล็กขวดละ 20 บาทเท่ากับบ้านเราเลยค่ะส่วนเบียร์กระป๋อง Heineken กระป๋องละ 18 บาท 17 บาท และถ้าเป็นเบียร์เวียดนามก็ตกกระป๋องละ 10 บาท และ 12 บาทแล้วแต่ยี่ห้อ เบียร์ถูกกว่าน้ำอีกค่ะที่นู่น จากนั้นก็เหมาแท็กซี่ ให้มาส่งที่ ญาจางไนท์มาร์เก็ต แต่ก็มาลงผิดตลาดค่ะมาลงที่ตลาด เล็กกว่า ฉันและครอบครัวก็เดินชมตลาดเป็น คล้ายตลาดนัดบ้านเราค่ะ มีของขายเยอะแยะ ด้านในก็มีร้านอาหารญี่ปุ่น มีพนักงานมาคอยต้อนรับเรียก Present อาหารต่างๆ ฉันและครอบครัวก็เริ่มที่จะหิวแล้วสิในมื้อเย็นก็เลยแวะทานที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่ง ก็มีหลากหลายเมนูให้เลือก แต่ ทางร้านจะแยกเมนู มีทั้งเมนูเล่มสีดำสีแดง ส่วนเราเป็นคนไทยได้เล่มสี ดำดำ ก็สั่งอาหารไปหลากหลายเมนูราคาก็ไม่แพงค่ะ เราก็ทานไปจนหมดจากนั้น ก็อยากจะสั่งเพิ่มแต่เมนู ก็ไม่ได้อยู่ในโต๊ะก็เลยเดินไปหยิบที่โต๊ะข้างๆ ซึ่งมีเมนูเป็นเล่มสีแดงพนักงานรีบวิ่งเข้ามาอย่างเร็วพลัน บอกว่าไม่ได้ ประมาณนี้ซึ่งเป็นภาษาของ เวียดนามหรือจีนผสมปนเปกัน เราก็งงๆกัน ก็เริ่มแปลกใจนิดหน่อย พนักงานก็หยิบเมนูเล่มเดิมสีเดิมให้คือสีดำ ในเมนูเล่มสีดำจะมีเมนูภาษาอังกฤษ ส่วนเมนูเล่มสีแดงจะมีภาษาจีน แล ะเกาหลี
ราคาอาหารในมือนั้น 600 บาท

พูดถึงบรรยากาศที่เมืองญาจางมี ตึกมากมาย แต่ละตึกก็สวยๆทั้งนั้น ซึ่งเราจองห้องชั้นที่ 40 มองเห็น วิวทะเลทิวทัศน์รอบด้านที่สวยงามมากๆและเห็นจุดแลนด์มาร์คของยาจางได้อย่างชัดเจนน้ำทะเลในตอนเย็นๆใกล้ค่ำก็เป็นสีคราม ซึ่งหน้า ลงไปแหวกว่ายมากๆแต่ก็น่า ผิดสังเกตมากๆเพราะ ขนาดจุดแลนด์มาร์คยังไม่มีผู้คน ไปเดิน พลุกพล่าน มีแต่รถแท็กซี่ และคนห่างๆ ทั้งๆที่สวนสาธารณะแห่งนั้น สวยมากแม้แต่ต้นสนก็ยังตัดเป็นรูปเป็นร่างต่างๆ เห็นแล้วก็น่านั่งพักผ่อนหย่อนใจมากๆ จากนั้น เราก็กลับมาที่ จุดแลนด์มาร์ค Tower Incense ซึ่งที่นั่น พอใกล้ค่ำก็ไปเล่น Hoverboard กับลูกๆที่นั่น เราเล่นกันทุกคนจนเหนื่อยและกลับที่พัก ระหว่างเดินกลับที่พักก็มี กุ้งล็อบสเตอร์ และปูตัวใหญ่ขายอยู่ริมทางก็เลยแวะซื้อขึ้นไปบนห้องพัก
ในห้องพักที่เช่ามีครบทุกอย่าง ทั้งห้องครัวเครื่องซักผ้าตู้เย็น ห้องพักมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก อยู่ชั้นที่ 40 ของโรงแรม Nha Trang Sunrise Ocean View Apartment
สีสันในยามค่ำคืนสวยงามมาก มองจากที่สูงวิวทิวทัศน์และแสงสี ถือว่าเป็นเมืองที่งดงามเมืองหนึ่งเลยก็ว่าได้
ฉันเรียกครอบครัวตื่นเต้นกับในวันรุ่งเช้าที่จะมาถึง เพราะเราจะไปสวนสนุกกัน ฉันในครอบครัวมองแท็กซี่กันเหมือนเคยเพื่อเดินทางไปสวนสนุก ซื้อบัตรเข้าสวนสนุก คนละ 1,000 กว่าๆ ไปกัน 6 คนก็ 6,000 กว่าบาท
เมื่อได้บัตรมาแล้วก็ไปเข้าแถวขึ้นกระเช้า
ในสวนสนุก มีของเล่นมากมาย และ มีสวนสัตว์ มี อควาเรี่ยม
เด็กๆสนุกกันมากเพราะเราเดินทางมาตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงตอนเย็น เล่นกันสนุกสุดเหวี่ยงด้านในก็มีอาหารร้านอาหารเยอะแยะมากมายให้เราได้ทาน ราคาก็ค่อนข้างจะสูงกว่าด้านนอก ค่ะ
พอตกเย็น ก็เดินทางกลับด้วยกระเช้า พอกระเช้าถึงฟัง เราก็ขึ้นแท็กซี่ เดินทางกลับไปที่โรงแรม พอถึงโรงแรม ลูกสาวคนเล็กก็อยากจะไปเล่น ที่ จุดแลนด์มาร์ค Tower Incense อีกครั้งเพื่อจะไปเล่น Hoverboard 50 นาที 50 บาท เน็ตเธอชอบขับจักรยาน ไฟฟ้า 50 นาที 50 บาทเช่นกัน
#และเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ในเวลานั้นฉันกับครอบครัวกลับมาจากสวนสนุกก็รู้สึก
เหน็ดเหนื่อยและเพลีย ก็ได้แต่นั่ง ดูลูกคนเล็กเล่น ของเล่น ด้วยอาการที่เหนื่อย แต่ก็เป็นห่วงลูกคนเล็ก เพราะในเวลานั้น เริ่มมีนักท่องเที่ยวมานั่งชมวิวกันแล้ว ลูกสาวคนโตก็เลยให้ลูกสาวคนกลางไป ดูน้องคนเล็ก ลูกสาวคนโตก็บอกให้ลูกสาวคนกลางถอดกระเป๋าสะพาย ไว้กับลูกสาวคนโต
ก็มีพ่อค้าแถวนั้น มาถาม อยู่เรื่อยๆ ว่าจะเล่น Hoverboard ใหม่ แต่ฉันก็ปฏิเสธไป และไม่นานก็มีคุณยายอายุมากพอสมควรเดินเข้ามาขายขนมกินเล่น ฉันก็ปฏิเสธไปอีก
และในเวลาไม่นานก็มี พ่อค้าแม่ค้าเดินมาถามอีกว่าจะเล่น Hoverboard ใหม แต่ครั้งนี้ ปฏิเสธไม่ทัน และมี แม่ค้า อายุมากกว่าคนเมื่อตะกี้อีกมาขายขนมกินเล่นและของเล่นให้กับสามี โดยคะยั้นคะยอ ไม่ถอยห่างที่ประชิดตัวทั้งๆที่สามีก็นั่งอยู่ริมฟุตบาท ฉันก็นั่งไกล้กับสามีนะ และน้องสาวของสามีก็นั่งอยู่ด้วย ห่างจากน้องสาวก็เป็นน้องออมสินลูกสาวคนโต ฉันหันไปมองสามี สามีก็ ปฏิเสธที่จะซื้อขนม คุณยายแกก็คะยั้นคะยอ จนสามี หลวงมือ ชักเงินให้ไป ฉันก็จดจ้องสามี ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดแล้วสิ....? ในช่วงเวลานั้นก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ลูกสาวหมดเวลาเล่นของเล่นพอดี คนขายของเล่นก็มาอุ้มลูกสาวไปเลือกของเล่นชิ้นใหม่ลูกสาวคนโตก็ตกใจ ไปอุ้ม น้องกลับมาจังหวะนั้น ชุลมุนวุ่นวาย และงงกับสถานการณ์ ฉันก็งงไม่รู้ว่าจะมองสามีกับเหตุการณ์ ที่คุณยายมาขายของหรือว่าจะหันไปมองลูกสาวไปเอาน้องกลับมาดีรู้สึกงงๆ
สามีก็เอาเงินให้แกไป แกก็ปฏิเสธ ที่จะเอาเงินที่สามีให้
ก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่.... ทุกอย่างก็สงบอย่างรวดเร็ว
แต่ !!!!!!!! ? ฉันและสามีรวมถึงลูกๆและน้องสาวสามี หันดูรอบๆตัวเอง และยังงงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตะกี้ จริงๆลูกสาวคนโตก็บอกว่ากระเป๋าหาย ฉันก็ถามรวมถึงสามีและ ทุกๆคนก็ถามว่ากระเป๋าอะไร #ลูกสาวคนโตก็บอกว่ากระเป๋าของน้องใบข้าวหายไปแล้ว
น้องออมสิน : น้องได้ฝากกระเป๋าไว้กับหนูตอนแรกที่น้องเดินไป เล่น และดูน้อง ข้าวหอม
น้องออมสิน เอา กระเป๋าของน้องไว้แต่ไม่ได้บอกใคร และหนูไม่ได้สพายกระเป๋าน้องไว้ด้วยหนูแค่ตั้งไว้ข้างๆ ตัว น่าจะช่วงที่ หนูเดินไป เอาน้องข้าวหอมกลับมานั่งน่าจะเป็นตอนนั้นที่กระเป๋า สะพาย หาย ในช่วงนั้นก็มี คุณมานั่งข้างหนูหลายคน 5-7 คนได้นะ ซึ่งเป็นช่วงที่ดูไม่ทัน ว่าใครเป็นใคร มารู้ตัวอีกทีก็กระเป๋าได้หายไปแล้วซึ่งด้านในกระเป๋าของน้องก็มีเงิน ไทย 4,000 บาท รวมถึงเงินเวียดนามเป็นเงินดง และเงินยูโร อยู่จำนวนหนึ่ง รวมถึงพาสปอร์ต และบัตรประชาชน ที่อยู่ในกระเป๋าใบนั้น เป็นกระเป๋า Handmade กระเป๋าหนังวัว
ความตื่นเต้นและความลึกมาพร้อมกันในเมื่อของสำคัญหายไปก่อนอื่นก็ วิตกกังวลหาสิ่งที่หายไปรอบๆตัว แต่ก็ยังตื่นตระหนก มี คนใกล้ๆแถวๆนั้นก็เข้ามาถามเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น สามีก็พยายามเดินหาแต่เราก็คิดอะไรไม่ค่อยจะออกเพราะตกใจมากกว่าก็เลยคิดได้แต่ว่าจะแจ้งความ หาตำรวจคนแถวนั้นก็หารถ และ แนะนำให้ไปหาตำรวจ แต่เราก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ก็เลยเดินออกไปจากจุดเกิดเหตุ และเดินไปหารถแท็กซี่เพื่อจะไป สถานีตำรวจของเวียดนาม เมืองญาจางเอง ก็ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุนัก แต่ก่อนที่จะไปฉันก็ได้หันดูรอบๆก็อุ่นใจ ทั้งตกใจ แต่ก็รู้สึกว่ามีกล้องวงจรปิดเยอะแยะมากมายหลายตัวรอบรอบจุดแลนด์มาร์คเลยก็ว่าได้และ แจ้งความในเวลาที่ไม่ นานจนเกินไปฉันคิดว่าเขาคงจะช่วยฉันได้ ฉันไม่ต้องการสิ่งของอื่นใดนอกจาก พาสปอร์ต กลับมา เมื่อไปถึง สถานีตำรวจ เราก็ลงจากรถแท็กซี่ พอไปถึงลูกสาว และทุกๆคนที่เห็น หน้าตามีตำรวจก็มีแต่ภาษาเวียดนามซึ่งเราก็อ่านไม่ออก เพราะดูเหมือนจะไม่ใช่เหมือนสถานีตำรวจบ้านเราเลย ก็เลยยก โทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะถ่ายรูปแล้วนำมาแปลว่าเขียนว่าอย่างไร แต่แล้วก็มีผู้ชาย 2-3 คน เดินออกมาจากห้องด้านใน แล้วตะโกนเป็นภาษาเวียดนามถ้าดูหน้าตาแล้วเหมือนกับจะไม่พอใจที่ลูกสาวถ่ายภาพ สังเกตดูสีหน้าแล้ว เพราะในเวลานั้นก็ประมาณ 2 -3 ทุ่ม จากนั้นผู้ชายก็ตะโกนไปที่รถแท็กซี่ ประมาณว่าถามว่า คือใคร แท็กซี่ก็บอกว่า ประมาณว่าฉันกับครอบครัวเป็นคนไทยเขาก็เปลี่ยนกริยาบท
ทันที เราก็เจรจากันเป็น ใช้ภาษาอังกฤษ โดยการแจ้งความ ว่ากระเป๋าหายและเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง
ใช้เวลาอยู่เป็นชั่วโมง #เพื่อจะขอใบแจ้งความ
จากนั้นไม่นานทางตำรวจก็ได้โทร เจ้าของโรงแรม ที่เราพัก มาที่สถานีตำรวจ เจรจากันพักใหญ่พร้อมกับเซ็นต์เอกสารจากนั้นตำรวจก็นัดอีกทีในวันพรุ่งนี้ 8:00 นเราก็แยกย้ายกันกลับที่พัก จากนั้นฉันและครอบครัวก็เดินออกเดินทางด้วยเท้าเดิน จากสถานีตำรวจไปยังปากซอยซึ่งในช่วง 09:00 นกว่าๆนั้นรู้สึกว่าถนนจะเงียบมากๆแทบจะไม่มีรถเลยในซอยที่ฉันเดิน ฉันและครอบครัวของฉันเดินไปขึ้นแท็กซี่ที่ถนนใหญ่ แต่พอเดินออกไปก็ไม่ไกลจากจุดแลนด์มาร์ค เลยมองเห็นด้วยซ้ำ ก็เลยเดินไป หากระเป๋าอีกครั้งแต่พอไปถึงกลับไม่มีนักท่องเที่ยวหรือพ่อค้าแม่ขาย อีกแล้ว เราแยกย้ายกันหา ฉันเดินไปริมระเบียง ก่อนจะถึงบันไดลงหาดฉันมองเห็นอะไร คล้ายๆ เป็นดำๆที่หาดทรายซึ่งมีกำแพงหาด บังแสงไฟ แต่ก็พอมองเห็นก็เลยเรียกลูกสาวให้ลงไปดูฉันคอยมองอยู่ด้านบนสรุปว่าเป็นซองพาวเวอร์แบงค์ของลูกสาวจริงๆ
รู้สึกมีความหวังขึ้นมา เรารู้สึก ดีขึ้นและก็ช่วยหากันอย่างละเอียดแม้แต่ในถังขยะที่บริเวณจุดท่องเที่ยวในบริเวณนั้นก็ยังไปคุ้ยเขี่ยดูกันเลย เวลา ก็นานเข้าเรารู้สึกถอดใจอีกครั้ง ก็เลยมานั่งตั้งสติ แล้ว คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะ เราไม่ระวัง ตัวเองให้มากกว่านี้ กระเป๋าหรือของสำคัญสมควรจะอยู่กับตัวในที่มิดชิดเพราะการเดินทางไปต่างประเทศ Passport ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆเลยค่ะ
ในเมื่อหาไม่พบ แล้วเราก็เดินไป ที่โรงแรมเพื่อจะพักผ่อน เครนในวันพรุ่งนี้ การจองข้อจะต้องล้มเลิกยกเลิกทั้งหมดทั้งเที่ยวบินกลับและการท่องเที่ยวของวันที่ 7- 10 . ก็ต้อง เสียเงินเปล่า เพราะไม่ได้ไปแล้วค่ะต้องเดินทาง กลับไปทำพาสปอร์ตที่หายไป
3.ที่พัก HoiAn : Mrs Cuorg Thinh Homestay
07/10/2019 - 08/10/2019 :1 คืน ราคา 868 บ.

  1. ที่พัก Da Nang : Mercure Danang French Village
    Banana Hills : 08/10/2019 -09/10/2019 : 1 คืน
    ราคา 7482 บาท

5.ที่พัก Da Nang : Pavilion Hotel:
09/10/2019 - 10/10/2019: 2 คืน 5945 บาท

ค่าเครื่อง ตอนกลับราคา 11945 บ.

พอดีตื่นเช้ามาเราก็เดินทางไปที่สถานีตำรวจ ก็ได้รับใบแจ้งความ จากนั้นเราก็ไป ซื้อตั๋ว จากญาจางไปโฮจิมินห์ เราเดินทางตั้งแต่ตอนเย็นนั่งรถนอน ไปถึงโฮจิมินห์ ตี4
จากนั้นก็ต่อแท็กซี่ไปลงที่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
เพื่อไปขอทำวีซ่าชั่วคราว
เมื่อไปถึง สถานกงสุลใหญ่ณนครโฮจิมินห์ ที่ทำการสถานทูตเปิด ทำการตอน 8:00 น สามีและลูกสาวพร้อมกับน้องสาว ก็ ต่อแถวหน้าสถานทูตจากนั้น 3 คนก็ได้เดินเข้าไปในสถานทูต ส่วนฉันและลูกสาวคนโตพร้อมกับลูกสาวคนเล็กคอยอยู่หน้าสถานทูต ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย น่าจะเครียดกับเรื่องกระเป๋าหายก็เลยรู้สึกปวดหัวและมีกระเป๋าเดินทางหลายใบที่ฉันต้องคอยดูแลพร้อมกับลูกสาวคนเล็ก ซึ่งเธอก็ไม่ค่อยสบาย ฉันไปยืนรออยู่ที่ ป้อมตรวจการณ์ หน้าสถานทูต ฉันรู้สึกปวดหัวก็เลยนั่งบนกระเป๋าและนั่งพิงผนังจู่ๆก็มี ผู้ชาย ที่อยู่ในป้อมเดินออกมาบอกฉันพร้อมกับถือปืน
แต่งตัวคล้ายกับตำรวจ ออกมาบอกฉันว่าอย่านั่งให้ยืน พูดจาเป็นภาษาอังกฤษ ฉันก็มองไปรอบรอบด้านก็สังเกตเห็น รถจักรยานยนต์จำนวนมากที่ขี่อยู่บนถนน ซึ่งรถจักรยานยนต์ในบนถนนเวียดนามเยอะมาก
ฉันก็ทำตาม ที่เขาบอกให้ยืนก็ยืน แต่ก็ยังงงๆเช่นเคย( ก็แค่ปวดหัวอยากนั่ง แค่นั้นทำไมต้องยืน)
เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงจากนั้น สามีก็เดินมาตามให้เข้าไปในสถานทูต ฉันก็รู้สึกดีใจเพราะด้านนอกอากาศค่อนข้างจะร้อนและมีรถเยอะมาก พร้อมกับผู้คนพลุกพล่าน
เมื่อฉันเข้าไปด้านใน สถานทูต ฉันผ่านประตูรั้ว 2-3 ประตูยิ่งเข้าไปด้านในก็รู้สึกอบอุ่น
ฉันเข้าไปพักในห้องรับรอง และ เจ้าหน้าที่ข้าราชการ ที่สถานกงสุลใหญ่ ฯ ทุกคนด้านในน่ารักมาก เป็นกันเอง โดยเฉพาะ ข้าราชการด้านก็จะเป็นคนใต้ เราก็เล่าเรื่องราวต่างๆในภาษาใต้ให้ฟัง ไม่นานนัก สามี ก็เดินทางไปที่ ต.ม ส่วนฉัน และลูกสาวอีก 2 คน ภรรยาของท่านกงสุลใหญ่แนะนำให้รออยู่ที่นี่
ฉันได้พบกับท่าน กงสุลใหญ่ ฯและภรรยา ของท่านกงสุล ซึ่งท่านเป็นกันเองมากๆ ภรรยาของท่านกงสุล ได้ถาม สาธุสุขดิบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เวลาผ่านไปสักระยะ ภรรยาของท่านกงสุลใหญ่ก็ได้ ได้จัดขนม เครื่องดื่ม และ ให้ฉันไปพักที่ บ้านของท่าน ตอนแรกฉันก็ไม่อยากจะรบกวน แต่ท่านก็ อยากให้ฉันและลูกได้อาบน้ำ และพักผ่อนกัน ฉันก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ พอไปถึงบ้านท่านก็เดินขึ้นไปห้องพักชั้นสอง ภรรยาของ ท่านกงสุลใหญ่ฯ จัดเตรียมทุกอย่างให้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ ห้องที่ท่านให้พักเหมือนกับเข้าวังเลยค่ะฉันไม่กล้าที่จะนั้งหรือนอนด้วยซ้ำ
ฉันรู้สึกปิติใจมากๆ... และภรรยาของท่านกงสุลใหญ่ยังทำ อาหารมื้อเที่ยงให้พวกเราได้รับประทานกันด้วยค่ะ ขอขอบพระคุณ ท่านกงสุลใหญ่และภรรยาของท่าน มากๆ ค่ะ นอกจากนี้แล้ว เดินทางท่านก็ให้คุณขับรถไปส่ง ขอบคุณมากค่ะ

กรณีหนังสือเดินทางสูญหาย ต้องแจ้งความ ที่สถานีตำรวจแล้วนำใบแจ้งความหลังจากนั้นมาติดต่อที่สถานกงสุลใหญ่ในโฮจิมินห์ เพื่อจะขอให้ สถานกงสุลใหญ่ออก C.l เพื่อจะขอ เวียดนาม Exit Visa เดินทางกลับประเทศไทย
เอกสารประกอบใบการขอ C.l
มีใบแจ้งความ กลับรูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 3 ใบ
สำเนาบัตรประชาชน
พอได้ใบ C.l แล้วก็เดินทางไปขอExit Visa ที่ต.ม
ตอนนั้นไปทันกรอก เอกสาร ในช่วงเที่ยง จากนั้น ต.ม ได้นัดไป
ในวัน ถัดไปเวลา 10:00 น สรุปก็ได้ใบExit Visa
จากนั้นก็ซื้อตั๋วเครื่องบินจาก สนามบินโฮจิมินห์ มาสนามบิน ดอนเมือง ลงจากสนามบินดอนเมืองก็มาพักต่อที่กรุงเทพอีก 1 คืน จากนั้นก็ซื้อตั๋ว รถทัวร์ศรีสุเทพทัวร์ รถสายใต้ - ตรัง

สวัสดีค่ะ

Sort:  

ขอบคุณครับพี่อ้อมที่นำมาความรู้จากการท่องเที่ยวมาแบ่งปันกัน ผมเห็นครอบครัวพี่ผ่านทางเฟช แล้วน่ารักกันทุกคนเลยครับ ดูแล้วมีความสุขตามไปด้วยเลยครับ

ขอบคุณมากค่ะน้องชาติเด็กๆสนุกกันมากค่ะ
ก็ ยังเสียดายค่ะถ้าไม่เกิดเรื่องเสียก่อนก็คงจะได้ไปเที่ยวครบทุกสถานที่ ที่จองเอาไว้ ได้ประสบการณ์ที่ดีๆมาหลายอย่างค่ะขอบคุณน้องชาติมากๆค่ะ♥️✌

Yap! This is horrible thing to have happened! They always come in a team of 5 people! Pickpockets there are the best in the world!

เหตุการณ์ก็ประมาณนี้ค่ะคุณขมิ้นชัน มันเกิดขึ้นเร็วมากและน่ากลัวด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่นั่น ฉันกลัว😢

These Vietnamese also work in team in London and Paris!! The pro!

Coin Marketplace

STEEM 0.17
TRX 0.15
JST 0.028
BTC 62007.73
ETH 2389.39
USDT 1.00
SBD 2.49