ทฤษฎีการผลิตภาพยนตร์ ตอน 1

in #thai6 years ago

Cinema part1.png

สวัสดีครับ Steemians ชาวไทยที่รัก

วันนี้จะเป็นโพสต์แรกที่ผมทำขึ้นเพื่อนำคุณเข้าสู่การผลิตวิดีโอและภาพยนตร์ ตั้งแต่ที่คุณ @impressable ได้คุยกับผมเรื่องที่ต้องการผลักดันให้ชุมชนไทยให้มาผลิตวิดีโอคอนเทนต์ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและผมพร้อมให้การสนับสนุนทั้งจากทาง @thaiteam และ @curied ตั้งแต่ที่มีการเริ่มต้นโครงการนี้มา ผมได้ดูวิดีโอและสังเกตเห็นปัญหาบางอย่างผมจึงถามคุณ @impressable ว่าต้องการคำแนะนำอะไรมั้ย เพราะชีวิตผมอยู่ในแวดวงการผลิตภาพยนตร์มาแล้วทุกในทุกระดับ ตั้งแต่ที่ฝรั่งเศส ผมเป็นครูในโรงเรียนสอนภาพยนตร์มา 2 แห่ง รวมถึงโรงเรียนที่อยู่ในระดับสูงสุดในยุโรป และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิตัลที่ทำงานกับข่าวในสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ผมควบคุมการผลิตแอนิเมชั่นสามมิติเพื่อสนุบสนุนเนื้อหาข่าว การทำงานต้องรวดเร็วภายใน 6-7 ชั่วโมง เพื่อให้ทันกับการนำเสนอข่าวในแต่ละวัน นอกจากนั้นผมยังเคยทำงานกับดิสนี่ย์ กันตนา แกรมมี่ และบริษัทอื่นๆ ทั่วโลก ดังนั้นผมคิดว่าผมมีคุณสมบัติมากพอที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และคุณ @cicy ก็มาจากสายงานเดียวกันกับผมและสามารถช่วยคุณได้เช่นกัน

หลายปัญหาที่เกิดขึ้น...มาจากปัญหาด้านทฤษฎีมากกว่าปัญหาในส่วนของการผลิตและถ่ายทำ แต่อย่างไรก็ตามผมจะเล่าเกี่ยวกับกระบวนการผลิตในบางส่วน เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรื่องการผลิตภาพยนตร์ให้พวกคุณด้วยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง

วิดีโอหลายๆ คลิปที่ผมเห็น มีปัญหาเดียวกัน เท่าที่ผมมองผ่านสายตาของคนที่อยู่ในวงการนี้ ผมรู้สึกได้ว่าพวกคุณส่วนใหญ่จะออกไปพร้อมกับกล้องหรือโทรศัพท์มือถือ และถ่ายอะไรก็ตามที่พบเจอ หลังจากนั้นก็กลับมาและทำการตัดต่อ แน่นอนว่าพวกคุณส่วนใหญ่มีไอเดียก่อนออกไปเก็บภาพ แต่สิ่งสำคัญกลับขาดหายไป...ซึ่งมันเห็นได้ชัดในผลงานของคุณ สิ่งสำคัญที่สุดในการผลิตภาพยนตร์ ผมจะเรียบเรียงให้คุณได้รู้ถึงความคิดเบื้องหลังภาพยนตร์, สารคดี หรือแม้แต่ภาพยนตร์โฆษณา แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมมันถึงสร้างให้ทุกคอนเทนต์มีพลังขึ้นมาได้ หลังจากทที่อ่านบทความนี้แล้วผมจะดีใจมากถ้าพวกคุณจะลองดูภาพยนตร์ สารคดี และโฆษณาสักสองสามตัว แล้วลองศึกษาดูด้วยตัวเองในสิ่งที่ผมจะถ่ายทอดให้พวกคุณดังต่อไปนี้

ทุกวิดีโอ ภาพยนตร์ หรือภาพยนตร์โฆษณา จะดำเนินตามกฎนี้ นั่นคือ เล่าเรื่องราวแบ่งเป็น 3 องก์

องก์ 1

สำหรับวิดีโอหรือภาพยนตร์ องก์ 1 เป็นการเกริ่นนำหรือนำเสนอให้เห็นว่า เกิดอะไรขึ้นที่ไหน กับใคร และและความรู้สึก บุคลิกลักษณะของตัวเอกในภาพยนตร์ โดยมากแล้วคุณจะเจอกับตัวละครเอก (Protagonist) และตัวละครปรปักษ์ หรือร้ายหรือฝ่ายตรงข้ามกับตัวละครเอก (Antagonist) ปกติแล้วภาพยนตร์จะมีความยาว 90 นาที และส่วนนี้จะยาวไม่เกิน 10 – 15 นาที ซึ่งมักจะแสดงให้เราเห็นว่าเขามีบุคลิกลักษณะและความเป็นอยู่อย่างไร และมักจะจบด้วยองค์นี้ด้วยตัวเอกและตัวร้ายเริ่มมีความรู้สึกไม่ดีต่อกันหรือขัดแย้งกัน

องก์ 2

สำหรับวิดีโอหรือภาพยนตร์ องก์ 2 เป็นการเผยให้เห็นปัญหาระหว่างสองฝ่าย ตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความหวาดหวั่น ความตึงเครียด และทั้งสองฝ่ายก็จะเข้าสู่ความขัดแย้ง องก์นี้จะเป็นส่วนที่ยาวที่สุดในภาพยนตร์ คุณจะเห็นว่าหลายครั้งจะมีความคลางแคลงใจ ความตึงเครียดของสองฝ่ายก่อตัวขึ้น และนำไปสู่การเผชิญหน้าซึ่งกันและกัน หรือใกล้จะเผชิญหน้ากัน ในภาพยนตร์ความยาว 90 นาที ความยาวขององก์นี้จะอยู่ทีประมาณ 50-55 นาที โดยมากแล้วตอนท้ายๆ ขององก์นี้ตัวละครเอก (พระเอก) จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด และต้องเผชิญปัญหาที่ใหญ่ที่สุด

องก์ 3

สำหรับวิดีโอหรือภาพยนตร์ องก์ 3 ในช่วงต้นขององก์นี้จะเริ่มไต่ไปสู่ความเครียดและความวิตกกังวลขั้นสุดที่เป็นปมของเรื่องทั้งหมด มันจะทำให้คนดูรู้สึกไม่สบายใจและตัวละครเอกจะต้องหาทางออกให้กับสถานการณ์โดยเร็วและสถานการณ์จะพลิกผันกลับกลายเป็นตัวละครปรปักษ์ (ตัวร้าย)
อยู่ในสถานการณ์เลวร้าย สถานการณ์จะคลี่คลายและจบลงที่ว่าตัวละครเอกเป็นฮีโร่

movie 3 act chart from Cicy.001.png

คราวนี้ถ้าลองมาดูในภาพยนตร์สารคดี มันก็อยู่ในรูปแบบเดียวกัน

  • องก์ 1 การเกริ่นนำหรือนำเสนอในหัวข้อเรื่องนั้นๆ
  • องก์ 2 การเผชิญปัญหา เหตุผลว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และรวมถึงแง่มุมอื่นๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับหัวข้อของสารคดีนั้น
  • องก์ 3 การค้นพบทางออก หรือการค้นพบความหวังในอนาคต

เอาล่ะ เราลองมาดูภาพยนตร์โฆษณา ยกตัวอย่างโฆษณาแชมพูสระผม

  • องก์ 1 นำเสนอ ว่าตัวละครเอกมีผมเสีย
  • องก์ 2 เพื่อนมาบอกว่าให้ใช้แชมพูชนิดนี้ เธอจึงลอง และผมของเธอก็กลับดีขึ้น
  • องก์ 3 ตอนนี้ผมของเธอสวยแล้ว และเธอก็ขอบคุณแชมพูชนิดนี้

มีเพียงภาพยนตร์อาร์ตเท่านั้นที่จะออกนอกกฎ 3 องก์

ดังนั้นถ้าจะพูดสั้น คุณสามารถเรียบเรียงในหัวไว้ดังนี้

1- การเกริ่นนำหรือนำเสนอ

2- เรื่องราว ปัญหา หรือความสุข

3- การแก้ปัญหาในขั้นตอนสุดท้าย หรือว่าหากในองก์ 2 เป็นเรื่องราวของความสุข
องก์นี้อาจจบด้วยความเศร้าก็เป็นได้

คงจะดีมากถ้าพวกคุณจะใช้เวลาดูภาพยนตร์ หรือสารคดี หรือโฆษณา แล้วลองใช้ทฤษฎีนี้วิเคราะห์ดู

สัปดาห์หน้า : การเตรียมแผนการถ่ายทำ

"Be Creative"

Special Thanks to @impressable and @cicy

Love and Happiness

@ricko66

Ricko66 WAY small.png

Sort:  

ขอบคุณมากค่ะ คุณ Ricko ทำให้เห็นปัญหาของวีดีโอที่ผ่านๆ มาอย่างชัดเจน ส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าจะถ่ายอะไร แล้วก็ถือกล้องออกไปถ่ายเลย ไม่ได้มีการเรียบเรียงเรื่องราวก่อน ทำให้วีดีโอออกมาไม่น่าสนใจอย่างที่ควร

Just give it a try by planning your video and you will be surprised at the result, Thank You :)

ขอบคุณมากๆครับ

You're welcome

ขอบคุณครับ ^^ ปกติผมมักจะเจออะไรแล้วก็ถ่ายตามที่คุณริกโก้ว่าเลย ผมไม่ได้วางแผนล่วงหน้าสักเท่าไหร่ ^^

As a photographer, it works but for videos, it is mostly felt even by non-professional even they don't know what is wrong they felt it can be done better. But if you try to plan you will see that your production will go a step upper, give it a try. Thank you :)

Thanks @ricko66, okay. I'll try.

ขอบคุณครับ ตอนนี้กำลังศึกษาการใช้โปรแกรมตัดต่อวีดีโอจากพี่ชายอยู่เหมือนกันครับ

What is the program you are learning "Premiere"? Check out lightworks it is a free program but really professional https://www.lwks.com/ But Premiere is really good and compatible with all the Adobe programs. Thank You :)

ไม่รู้ครับว่าชื่อโปรแกรมอะไร เห็นแต่โลโก้มีตัวย่อ Pr สีม่วงๆ ครับ พี่ผมเขาเอามาลงและสอนตัวนี้ให้ครับ เห็นบอกว่าบางทีจะให้ผมช่วยงานเขาด้วย ก็เลยสอนตัวนี้ให้

The program with logo Pr is Premiere it is a very good program from the company Adobe

บทความที่น่าสนใจรายละเอียดมาก

ยินดีที่สุดครับ คุณ @teamcambodia

ข้อมูลมีประโยชน์มากค่ะคุณริโก้​ รอติดตามค่ะ

Nice post! A video tutorial later would be fantastic!

Merci beaucoup.

Merci @kaminchan, I will go through many aspects of video production so everybody will see the different steps that make movies and videos believable and valuable, but why not a VDO tut when it comes to editing or adding effects. I hope it will help the community to get a better curation out of their production. Merci :)

จะลองดูนะคะ กำลังว่าจะลอง ร้องเพลงเป็นเสียงตัวเอง แล้วถ่ายวีดีโอดู ไม่รู้จะ work มั้ย

Hi, @alexwonderful, if you search about the structure of songs it uses the same pattern when it comes to putting music into moving pictures you have two way shooting 1- the musicians playing the song 2 - use some footage to make a video clip. Here the structure of songs in a graphic and compare with my story structure it is the same :
How-to-write-a-song_Narrative-Arc_Song_1200x558.jpg

ขอบคุณมากค่ะ

You're welcome

ขอบคุณครับ ดีจังมีเทพภาพยนตร์มาสอนแล้ว

Thank you, @kolkamkwan, I hope it will help you :)

Coin Marketplace

STEEM 0.17
TRX 0.13
JST 0.027
BTC 58919.17
ETH 2647.00
USDT 1.00
SBD 2.43