วิถีชีวิตชาวนา

สวัสดีวันแรงงานค่ะเพื่อนๆ วันแรงงานเพื่อนๆ หยุดพักผ่อนไปเที่ยวไหนกันบ้างคะ ส่วนเราก็มีงานที่ใช้แรงงานเกือบทุกวันเลยค่ะ เหนื่อยจริงๆ เราถึงจะหยุดพักผ่อนสักวันสองวัน พอหายเหนื่อยก็สู้กันใหม่ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมท้องทุ่งนาที่เขียวขจี ที่ยังพอหลงเหลือให้เห็นในหน้าแล้งแบบนี้ เห็นเขียวๆ แบบนี้ค่อยสดชื่นหน่อยค่ะ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ในตอนนี้แห้งแล้งมากๆ ต้นไม้เหี่ยวแห้งยืนต้นตาย ที่นาบางที่ก็พื้นดินแตกระแหง รอน้ำฝนจากฟ้าเพื่อให้ดินชุ่มช่ำ วันสองวันนี้ฝนก็ตกลงมาปรอยๆ ความเปียกพอๆ กับน้ำค้างตอนเช้าในหน้าหนาวนั่นแหล่ะค่ะ ไม่พอทำให้ดินชุ่มชื่นได้ ตอนนี้เราก็รอน้ำฝนจากฟ้า เพื่อลงมือทำนาในหน้าฝน รู้สึกว่าปีนี้ฝนจะมาช้ากว่าทุกปี ที่จังหวัดพิจิตรเกษตรกรส่วนใหญ่ทำนาปลูกข้าว เจ้าของที่นาไหนที่ขุดบ่อน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ก็สามารถปลูกข้าวได้หลายครั้งต่อไป

ส่วนวันนี้เราก็มารับจ้างตัด "ข้าวดีด" ปัจจุบันชาวนาในเขตภาคกลางจนถึงเหนือตอนล่าง กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับวัชพืชชนิดใหม่ ที่มีลักษณะเหมือนต้นข้าวจนแยกไม่ออกในระยะต้นกล้า วัชพืชชนิดนี้มีชื่อเรียกต่างๆ กันในแต่ละท้องถิ่น ส่วนบ้านเราเรียกอีดีด ซึ่งอีดีดเหล่านี้จัดเป็นวัชพืชที่ร้ายแรงในนาข้าว ในระยะเริ่มต้นของการระบาด อีดีดจะแฝงตัวเข้ามาในนาข้าวเพียงไม่กี่ต้น หากไม่มีการกำจัดในระยะเวลา 2-3 ฤดู เท่านั้น อีดีดสามารถเพิ่มจำนวนเป็นหลายล้านต้นปกคลุมจนมองไม่เห็นต้นข้าวเลยค่ะ

อีดีดนั้นเกิดจากการผสมข้ามระหว่างข้าวป่าที่พบทั่วไปในธรรมชาติ กับข้าวปลูก เกิดเป้นลูกผสมที่มีการกระจายตัวของลูกหลานออกเป็นหลายลักษณะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่ชาวนาไม่ต้องการ คือ เปลือกเมล็ดสีดำ หรือลายน้ำตาลแดง เมล็ดข้าวสารมีสีแดง ปลายเมล็ดมีหาง และเมื่อสุกแก่เมล็ดจะร่วงก่อนเก็บเกี่ยวข้าว ดังนั้นเราต้องรีบตัดตอนก่อนที่เมล็ดมันจะร่วงลงพืชและกระจายเป็นวงกว้าง

ถ้าเราไม่กำจัดก่อนที่มันจะร่วงลงสู่พื้น มันจะเจริญเติบโตได้รวดเร็วมาก และสูงข่มข้าวปลูกในระยะแตกกอ อีดีดจะออกดอก และเมล็ดจะสุกแก่ก่อน ก่อนข้าวปลูกประมาณ 2 อาทิตย์ ชาวนาจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ เพราะเมล็ดร่วงเกือบหมด ทำให้ผลผลิตข้าวเสียหาย นี่แหล่ะค่ะชีวิตชาวนา นอกจากรอฟ้ารอฝนแล้ว ยังต้องเผชิญกับเพลี้ย แมลง และวัชพืช แต่เมื่อเราเลือกที่จะเป็นชาวนาแล้วก็ต้องสู้กันไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ สำหรับวันนี้ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ให้การสนับสนุนค่ะ