วิวัฒนาการการทำงานออนไลน์ work at home

in #thai6 years ago (edited)

สวัสดีครับพี่น้อง steemains วันนี้ผมได้ทำการ live สดในหัวข้อ วิวัฒนาการการทำงานออนไลน์ work at home ซึ่งผมเล่าถึงประสบการที่ผ่านมาและจากการลงมือทำ จึงอยากจะมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ และผู้คน ผมอยากเห็นคนไทยให้ความสนใจ และหันมาเรียนรู้เทคโนโลยีเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าความบันเทิงเพียงเดียว

Image of Yaktocat

ผมเองไม่ได้จบมาทางด้านไอทีแม้อต่น้อย แค่เป็นคนกล้าใช้งานมันโดยไม่ปิดกั้นว่า ใช้ไม่ได้หรอก เราไม่เก่ง หรือไม่กล้าใช้ ผมจึงเป็นตัวแทนได้ดีสำหรับคนที่เป็นกังวลเหล่านี้ ผมเริ่มต้นให้ความสนใจเทคโนโลยีครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 20 ปี จากข่าวมีเด็ก ม.6 ขายเว็บไซต์ sanook.com ในตอนนั้นแล้วได้เงินหลายล้านบาท ซึ่งทำให้รู้สึกอยากรู้และอยากเข้าใจว่าเทคโนโลยีนี้มันเป็นอย่างไร ซึ่งผมเองก็ศึกษาเรียนรู้มาเรื่อยๆ จึงอยากสรุปประสบการณ์ดังนี้ ในเรื่องของวิวัฒนาการการทำงานออนไลน์ work at home

ยุคที่ 1 ยุคของเวบท่า Portal

ซึ่งได้แก่ yahoo.com, sanook.com, kapook.com, เว็บเหล่านี้จะรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่เป็นที่สนใจของผู้คน และมีรายได้จากการขายพื้นที่โฆษณา ให้ผู้เช่าซื้อ เพื่อติดแบนเนอร์โฆษณา ซึ่งก็จะมี rate ราคา ต่างๆ ตามการวิเคราะห์ในการมีโอกาสในการมองเห็นของผู้เข้าชม

ยุคที่ 2 หลังฟองสบู่ดอทคอม

ซึ่งในตอนนั้นเป็นยุคที่เริ่มรู้สึกว่าอินเตอร์เน็ตเป็นเพียงกระแสที่เกิดขึ้นและปั่นราคามูลค่าของเว็บไซต์เพื่อขายกันในราคาสูง แต่ไม่สามารถทำกำไรได้จึงเริ่มล้มหายตายจากกันไป

ยุคที่ 3 ยุคของ search engine google.com

หลังยุคฟองสบู่และเกิด google.com ขึ้นมา ด้วยหน้าตาที่ใสสะอาด ทำให้คน google เป็นที่นิยมในความง่ายใน
การหาข้อมูล และดูเหมือนจะเป็นการยกระดับการศึกษาของคนขึ้นมามากทีเดียว ที่ทำให้การเข้าถึงข้อมูลทำได้อย่างง่ายดาย หลายคนสงสัยว่า google ให้ใช้กันฟรีๆ แต่ทำไมถึงรวยเอาๆ เพราะเมื่อมีคนใช้เยอะ google ก็ขาย keyword เพื่อให้แต่ละเว็บทำการประมูลเพื่อทำการโฆษณากับ google ให้คนสามารถค้นหาได้
เจออันดับต้นๆ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งเรียกว่า google adword และในขณะเดียวกัน google ก็ให้ผู้ที่มีเว็บไซต์สามารถนำโฆษณาไปติดที่เว็บไซต์เพื่อได้รับส่วนแบ่งค่าโฆษณษจากคนซื้อโฆษณาฝั่ง adword จึงทำให้ google มีรายได้มหาศาล และต่อมา google ก็ทำการซื้อ youtube.com เป็นเว็บที่รวบรวมเรื่องราวเป็นวิดีโอ และให้ผู้คนสามารถทำวิดีโอขึ้นไปบน youtube และจะได้รับเงินค่าโฆษณาเช่นเดียวกัน และผู้สร้างวิดีโอเมื่อมีคนติดตามเป็นจำนวนมาก ก็จะเป็นที่สนใจให้ทำการโฆษณาสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ ซึ่งก็จะได้เงินค่าโฆษณาเป็นช่องทางการหารายได้อีกทาง จะเห็นว่ามีคนออกมาทำช่องรายการผ่าน youtube มากมาย

ยุคที่ 4 ยุคของ social media

อย่าง Facebook, Istragram ซึ่ง Facebook ก็รวยได้จากรายได้จากการโฆษณาของผู้ทำเพจของ Facebook เพราะเมื่อมีคนใช้มากขึ้นเรื่อยๆ การเข้าถึงก็ทำได้อยากขึ้นจึงต้องอาศัยเครื่องมือการทำโฆษณาของ Facebook แต่ในขณะเดียวกันผู้ใช้ก็สามารถสร้างรายได้จากการเปิดเพจและเขียนคอนเทนด์เนื้อหาให้น่าสนใจและมีคนติดตามให้มากๆ ก็จะมีแบรด์นสินค้ามาให้ความสนใจและจ่ายเงินให้ค่าโฆษณา ซึ่งเป็นรายได้ที่ดีทีเดียวหากทำได้ เช่น Page อีเจี๊ยบเลี๊ยบด่วน บางเพจมีราได้หลักหมื่น หลักแสนบาทต่อเดือนถ้าทำได้ ซึ่งหากใครเข้ามาทำตอนนี้ก็จะมีความยากมากขึ้น ต้องคิดคอนเทนด์ที่เจ๋งจริงๆ และอาจจะต้องทำการซื้อโฆษณาควบคู่ไปด้วยเพื่อให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่าย

ยุคต่อไป คือยุคของเงินดิจิตอล ที่สามารถทำได้จากการเล่น social media

ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีทุนเลย เพราะมีหลักการว่าการโพสต์เปรียบเหมือนการขุดเหรียญดิจิตอล สิ่งที่ต้องทำคือนำเรื่องราวของเราไปโพสต์บน steemit.com และเมื่อมีคนโหวตให้เราก็จะได้เงินดิจิตอล หลักการง่ายๆ แค่นี้เอง ซึ่งทำให้การทำงานออนไลน์เป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้นและที่สำคัญคือแทบไม่ต้องใช้ทุนเลย

ติดตามดูคลิปได้ที่ Facebook
https://www.facebook.com/Apichat.buotong/videos/10212082912121557/

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและติดตามกันนะครับ
LOVE LOVE
@pichat

Sort:  

Thank you for Using #promo-steem tag, Promote steemit by inviting your friends and your family!

image
ขอบคุณมากค่ะ

ขอบคุณเช่นกันครับพี่อ้อม ที่เป็นกำลังใจกันครับ

เช่นกันค่ะน้องชาติ

Coin Marketplace

STEEM 0.27
TRX 0.11
JST 0.030
BTC 70453.17
ETH 3808.25
USDT 1.00
SBD 3.51