เล่ากันฟังกับงาน Blockchain Thailand Genesis 2019
สวัสดีครับพี่น้อง steemains ชาวไทยที่น่ารักทุกคน กลับมาเล่าถึงบรรยากาศงานและความรู้ที่ได้รับจากการจัดงาน Blockchain Thailand Genesis 2019 ครั้งที่ 2 ในปี 2019
เมื่อผมไปถึงในงานสิ่งแรกที่ผมเห็นคือ มีน้องๆ อายุประมาณ 16-18 เข้ามาร่วมงานอยู่หลายคน แอบคิดว่าเด็กรุ่นใหม่สนใจเรื่องนี้กันเยอะน่ะ แต่ที่น่าแปลกกว่าคือผมเห็นคนคุณลุง คุณป้า อายุน่าจะ 60-70 กว่าๆ มาร่วมงานหลายคนมากเช่นกัน จึงสรุปได้ว่าอายุ ไม่ได้บ่งบอกว่าคนรุ่นไหน แต่สิ่งที่ทุกคนสนใจคือ เรื่องใหม่ๆ ที่ไม่ปิดกั้นตัวเองมากกว่า ถึงจะเรียกว่าเป็นคนรุ่นใหม่จริงๆ ผมพยายามมองไปรอบรอบๆกในให้สัมนาก็ถือว่ามีคนเยอะพอสมควร ซึ่งพิธีกรบอกว่ามีคนลงทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 2700 คน และเยอะกว่าการจัดครั้งที่ 1 ในปี 2018 เป็นเท่าตัว
ในงานแยกออกเป็น 3 โซนด้วยกัน โดยมีห้องสัมนาอยู่ 2 ห้อง และด้านนอกเป็นบูธของบริษัทต่างๆ ที่ให้ได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมของแต่ละบูธ ซึ่งมีทั้งของคนไทยและต่างชาติ เช่น บูธขาย hardware wallet, บูธเว็บข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ blockchain,
ส่วนห้องสัมนาใหญ่ จะเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับบล๊อกเชน บิทคอยน์ ซึ่งเป็นความรู้ที่หลากหลาย ทั้งที่เป็นผู้สนใจทั่วไป, นักพัฒนา, และนักธุรกิจ ที่จะได้ไอเดียไปออกแบบและสร้างธุรกิจ และมีตัวแทนจากธนาคาร กสิกรไทย กรุงศรี และไทยพาณิชย์ ร่วมเสวนาเรื่องของการปรับตัวของธนาคารในยุคที่หลายคนมองว่า เป็นองค์กรที่จะถูกปฏิวัติจากโลกการเงินอย่างคริปโตและเทคโนโลยีบล๊อกเชน
ห้องสัมนาเล็ก ก็จะมีบูธเช่นกัน พร้อมกับการรับฟังกูรูและตัวแทนจากบริษัทต่างๆ ขึ้นแลกเปลี่ยนและให้ความรู้กับผู้สนใจ ซึ่งเนื้อหาจะเข้มข้นและลงรายละเอียดมากกว่าห้องสัมมนาใหญ่ ซึ่งผมอยู่ห้องสัมมนาใหญ่เป็นหลัก และแว๊บมาดูเฉพาะเนื้อหาและเยี่ยมชมบูธที่น่าสนใจเป็นช่วงๆ
ถ้าให้ผมสรุปสิ่งที่ผมได้จากการเข้าร่วมงานครั้งนี้
- ได้เห็นแนวโน้มและทิศทางของคริปโตและเทคโนโลยีบล๊อกเชนในเมืองไทย ซึ่งผมมองว่าเป็นอะไรที่คนยังให้ความสนใจน้อยอยู่มาก ซึ่งส่วนใหญ่จะรู้จักคริปโต จากธุรกิจเครือข่ายกันเป็นส่วนใหญ่ และผมแอบเห็นคนกลุ่มนี้จำนวนหนึ่งที่มาร่วมงาน
- ได้ความรู้ที่ตอกย้ำว่าอย่างไรโลกการเงินต้องเปลี่ยนแน่นอน เพราะบิทคอยน์ ได้จุดประกายการแก้ปัญหาการเงินให้คนทั่วไปเข้าถึงเพื่อลดความเลื่อมล้ำ เช่นเดียวกับที่เฟชบุ๊ก และ google ได้ทำให้ข้อมูลข่าวสารป็นเรื่องเข้าถึงง่าย และลดความเลื่อมล้ำในการสร้างธุรกิจจากคนตัวใหญ่ สู่คนตัวเล็กๆ อย่างเราๆ มาแล้ว
- ได้เห็นความยากลำบากของการเริ่มต้นธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการนำเทคโนโลยีบล๊อกเชนที่จะสร้างการเปลี่ยนแลงสังคม ผู้คน และธุรกิจ เพราะไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ผู้คนหันมาสนใจเรื่องราวเหล่านี้ ต้องใช้ความอดทน และเงินลงทุนพอสมควร ดูจากการจัดงานครั้งนี้ ค่าบัตร 500 แต่มีของแจกเช่นกระเป่า สมุด ปากกา และคูปองค่าอาหาร 100 บาท และยังมีคนจำนวนหนึ่งซื้อบัตรมาในราคา 300 ด้วย ซึ่งผมก็เป็น 1 ในนั้น ที่ผมพูดแบบนี้เพราะได้ยินผู้ประกอบการด้วยกันคุยกัน และเห็นภาพรวมจากการจัดงานนี้ ซึ่งต้องชื่นชมผู้จัดงานที่พยายามจะทำให้ความรู้เข้าถึงคนไทยกว้างมากขึ้น ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้ในอนาคต
- ผมได้ยินคำว่า Tokenisation ซึ่งน่าจะเป็นเทรนด์ในอนาคต ที่ทรัพย์สินต่างๆ เช่น ที่ดิน อาคาร ร้านค้า ชื่อเสียง จะถูกนำมาแปลงเป็นเหรียญ เพื่อกระจายการถือครอง เช่นเดียวกับการซื้อหุ้น และในอนาคตตลาดหุ้น ก็คือเว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างเช่น บิทคับ หรือ สตางค์โปร ซึ่งหากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในอนาคต การกระจายรายได้ และการหมุนเวียนของเงิน จะมีมูลค่าและความเร็วที่มากขึ้น เข้าถึงผู้คนมากขึ้น ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและจีดีพีของประเทศ
- ผมยังเห็นช่องว่างของการพัฒนา Dapp ที่ทำงานบนบล๊อกเชน เช่น EOS, TRON, ETH,STEEM ซึ่งผมไม่เห็นบูธและการพูดถึง Dapp เลยในงานนี้ แต่ผมเห็นโลโก้ STEEM ที่นำมาวางให้ผู้เข้าร่วมงานได้ถ่ายรูปด้วย 555
หวังว่าสิ่งที่ผมนำมาเล่าสู่กันฟังจะเป็นประโยชน์กับพี่น้อง steemains นะครับ ซึ่งก็หวังว่าในอนาคตหากมีคนเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้มาขึ้น การที่จะถูกหลอกให้ลงทุน และหันว่ามาศึกษาเพื่อนำความรู้ไปสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ หรือต่อยอดธุรกิจเดิมกันได้นะครับ
ขอบคุณทกคนที่ให้กำลังใจและติดตามกันนะครับ
@Pichat
ขอบคุณน้องชาติมากครับที่นำเรื่องราวมาแบ่งปัน เสียดายผมไม่มีโอกาสได้ไป ขอบคุณมากครับ
ยินดีครับพี่พันธ์ ปีหน้าหากมีโอกาสมาเจอกันนะครับ
Very nice! You spot the Steem Logo!
Well done! Good report!
Thank you krub 🙏🙏🙏
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆคับพี่ชาติ ผมมีแอบเอาไปโปรโมททางทรูไอดีด้วยคับ 😄
ด้วยความยินดี และขอบคุณครับผม :)