“Bitcoin นั้นยังไม่ตาย มันยังมีเหตุผลที่ควรจะถือมันเก็บไว้” กล่าวโดย Tom Lee
สวัสดีเพื่อนๆ ชาว steemians ทุกคนนะครับ
วันนี้ผมไปอ่านเจอบนความของ Tom Lee เกี่ยวกับแนวคิดและแนวทางของ Bitcoin ซึ่งเนื้อหาที่ผมอ่านแล้วมีสาระและน่าสนใจดี เลยนำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านต่อกันครับ
เมื่อเดือนเมษายนกำลังใกล้เข้ามา และอากาศในประเทศไทยกำลังร้อนขึ้น มันจึงอาจเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำให้หลาย ๆ คนกำลังเครียดกับราคาของ Bitcoin ที่กำลังร่วงอย่าหาก้นไม่เจอ และหลาย ๆ คนอาจกำลังคาดหวังให้ราคาของมันกลับขึ้นมาอยู่ ณ จุด ๆ เดิม ในขณะเดียวกันนักลงทุนมืออาชีพพันล้านนาย Tom Lee ผู้ก่อตั้งบริษัท Fundstrat Global Advisors ได้ออกมาชี้ให้เห็นถึงสาเหตุที่นักลงทุน Bitcoin ควรจะมองมันเป็นด้านบวกในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทรนด์ digital trust, เด็กยุคมิลเลนเนียลเริ่มเติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำคน, เหรียญคริปโตกำลังถูกมองเป็นสินทรัพย์ของแท้ และรวมถึงนักลงทุนจาก Wall Street กำลังกระโดดเข้ามาในตลาดนี้
แม้มันจะดูสิ้นหวัง แต่นาย Tom Lee ก็ยังมอง Bitcoin ในแง่บวก
ดูเหมือนว่าในเดือนนี้นักลงทุนคริปโตอาจจะไม่มีความสุขเท่าไรนัก เนื่องจากสภาพราคาของตลาดที่ดูเหมือนว่าจะย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ นาย Tom Lee ที่ก่อนหน้านี้ออกมาทำนายราคาของ Bitcoin ถูกหลายต่อหลายครั้งไม่คิดว่าตลาดนั้นดูย่ำแย่อย่าง 100% เสมอไป
โดยล่าสุดเขาได้ออกมาพูดคุยเกี่ยวกับเศรษฐกิจของ cryptocurrency ว่าทำไมมันถึงยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยสิ่งที่หลาย ๆ คนควรจะคำนึงถึงก่อนก็คือนาย Lee นั้นเป็นนักวิจัย ซึ่งนั่นหมายความว่าตัวของเขาไม่ได้บริหารเงินทุนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่บริษัทของเขากำลังอยู่ได้ด้วยความเชื่อมันของลูกค้าของเขาเขายังบอกอีกว่าความเห็นของเขานั้นอย่างไรก็คือความเห็น พร้อมกำชับว่าทุก ๆ คนที่อ่านงานวิจัยราคาของเขาควรที่จะตัดสินใจซื้อขายด้วยตัวเอง โดยตัวของเขานั้นแค่หยิบยกข้อมูลขึ้นมาให้ดู โดยข้อมูลนั้นถือเป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่แนวคิดอย่างใด และตัวเขาเองนั้นก็ไม่ใช่ cypherpunk อีกด้วย
ทฤษฎีของนาย Lee นั้นเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่ Bitcoin กำลังส่งผลทำให้สถาบันการเงินส่วนใหญ่ทั่วโลกกำลังงงงวย โดยราคาของมันเริ่มต้นที่แค่ 0 ดอลลาร์, ไม่มีแม้แต่นักลงทุน VC, ไม่มีแม้แต่ผู้บริหาร แต่มันสามารถเติบโตได้โดยไม่ต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์
ต่อมาเขาได้อธิบายถึงสถาบันการเงินและธุรกรรมส่วนใหญ่นั้นตั้งอยู่บนดิจิตอล ไม่เว้นแม้แต่หุ้น 5 อันดับแรกในตลาด S&P 500 สหรัฐฯก็ยังเป็นดิจิตอลหมด และเศรษฐกิจดิจิตดอลนั้นกำลังเริ่มก่อให้เกิดเงินในรูปแบบ decentralization ขึ้น และส่งผลทำให้ระบบจุดศูนย์รวมอย่าง centralization กำลังสั่นคลอนเนื่องจากความง่ายต่อการจู่โจม ดังตัวอย่างที่เห็นได้ในธนาคารกลางแห่งมาเลเซียโอนเงินให้ผิด โดยไปโอนให้แฮคเกอร์แทน
นอกจากนี้ระบบการเงินในปัจจุบันนั้นกำลังถูกสร้างอยู่บนความไว้เนื้อเชื่อใจรัฐบาล และความไว้เนื้อเชื่อใจนั้นดูเหมือนว่าจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐฯ และรวมถึงประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกอีกด้วย โดยในขณะนี้เรทความเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐฯนั้นร่วงลงมาอยู่จุดต่ำสุดในรอบห้าสิบปี ในขณะที่ประเทศอย่างบราซิล, อาร์เจนตินา, กรีซนั้น ความไว้ใจต่อรัฐบาลนั้นไม่มีอีกต่อไป ตัวแปรเหล่านี้ทำให้ความสนใจใน cryptocurrency นั้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
เนื้อหายังคงมีต่อนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะนำข่าวและแนวคิดเรื่อง Bitcoin ของนาย Tom Lee มาให้อ่านต่อกันนะครับ
เครดิต : ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tom Lee
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ กำลังศึกษาอยู่พอดีเลยคะ
ครับ เดี๋ยววันนี้จะนำข้อมูลมาให้อ่านเพิ่มเติมอีกครับ
ยังไงเราก่อจะอดใจรอค่ะ
ครับ ใช้จ่ายเงินจากรายได้หลักไปก่อน รอราคา Bitcoin สูง ถึงจะขายมาใช้จ่ายครับ
ใช่ค่ะ รอไปก่อนแล้วกันเนาะ
ขอบคุณสำหรับ บทวิเคราะห์ ตามความคิดผมคิดว่าสถานการณ์ ที่ราคา Crypto ร่วงอยู่ในตอนนี้ มันมาจากทฤษฎี สมคบคิดของคนบางกลุ่ม เช่นกลุ่มทุน สื่อ สถานบันการเงินรุ่นเก่า ที่ต้องการทุบราคาบิทคอยให้ต่ำเพื่อ เพื่อให้ขาดความน่าเชื่อถือ และคนเทขาย ก่อนที่กลุ่มทุนจะเข้าซื้อและปั่นราคาขึ้นเพื่อทำกำไรอีกรอบ และเป็นอย่างนี้อีกหลายรอบ จนกว่าคนทั่วไปจะเข้าใจคุณค่าของ บิทคอย จริงๆและเข้ามาจำนวนมาก จึงจะทำให้กลุ่มทุ่นไม่สามารถปั่นได้ ตอนนี้เราตัวเล็กก็ทำได้แค่เล่นตามเกมส์
ใช่ครับ ส่วนตัวของผม ก็ถือไว้ยาวๆ จนราคาขึ้นสูงจริงๆ ค่อยขายออกมาเป็นเงินบาทครับ หรือจะขายก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆเท่านั้นครับ
Impossible is Nothing @jakkris..
I do like your research about this from Tom Lee and it explained well :D
Steem On! :D
Yes, I think this article is very good. I have to share it.
Yes, @jakkris.. It's very helpful and for you sharing it was the best thing that you'd do for our Thai friends. 😊
รออ่านต่อ จ้า ข้อมูลแน่นมาก แทงกิ่ว
ขอบคุณครับที่สนใจข้อมูล เดี๋ยวจะนำข้อมูลมาแชร์ต่ออีกนะครับ