ด้านมืดของบล็อกเชน🌓The dark side of Blockchain 🌘

(spark post)

สวัสดีทุกท่าน

วันนี้เหนื่อยมาก มีเรื่องต้องทำเยอะมาก ดึกมากแล้ว กำลังจะนอน เปิดหน้า steemit มาเห็นนางแมวเหมียวเขียนโพสต์ซะนี่ อุตส่าห์บอกไปว่าพรุ่งนี้ค่อยเขียน จะได้เท่าๆกัน ข้อยอยากพัก แต่เดี๋ยวไม่ทันนาง เนื่องจากเป็นคนเริ่ม experiment เอง 555 รับกรรมซะ ดึกเลยวันนี้

เรื่องที่จะเขียนนี้ เป็นอุทาหรณ์ ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ย่อมมี ข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งแม่แต่เทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่าง Blockchain ก็เช่นกัน การใช้งานอย่างไม่ระมัดระวัง และเผลอเรอ ก็อาจนำมาซึ่งจุดจบอย่างน่าเศร้าได้

เรื่องราวที่จะเก็บมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ เป็นเรื่องราวที่ผมเองได้ติดตามมาสักกว่าหนึ่งเดือนแล้ว เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ น่าติดตาม และน่าหดหู่ ในเวลาเดียวกัน ผมเองที่ติดตามก็เพราะฟังเรื่องราวแล้วก็รู้สึกสงสารเขา ถึงแม้ว่า เรื่องนี้จะเกิดขึ้นมาเพราะว่าความประมาทเลินเล่อ ของเขาเองก็ตาม ใครๆก็พลาดกันได้ การทำพลาดนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าพลาดพลั้งไปแล้ว และแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็จำเป็นต้องยอมรับชะตากรรมกันไป

เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ตัวผมเองนั้นได้ลงทุน เกี่ยวกับ Cryptocurrency บ้าง ถึงจะไม่ได้มากมายเหมือนนักลงทุนรายใหญ่หลายๆคน แต่เมื่อมีเงินเหลือบ้างเมื่อไหร่ ผมจะเอาไปซื้อ Crypto แต่ขอบอกว่า เงินทั้งหมดนี้ เป็นเงินเย็น ที่ไม่ได้ไปกู้ใครมา เพราะว่าการกู้เงินมาลงทุนในระบบที่มีความผันผวนสูง เป็นสิ่งที่เสี่ยงมาก คล้ายๆกับการซื้อหวย โอกาสที่จะเดาผิดมีสูง

(source-eos)

หากใครลงทุนใน Cryptocurrency ก็จะรู้ว่าตอนนี้ EOS กำลังมาแรงมาก และเป็นที่จับตามองของนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยทั้งหลาย ตัวเองนั้นก็มี eos อยู่ จึงเข้าไปอ่านและติดตามเรื่องราวของกลุ่มนี้เป็นประจำ

เมื่อเดือนก่อนนั้น มีนักลงทุนท่านหนึ่ง ได้นำเงินที่ได้จากการสะสมมาทั้งชีวิต เงินของครอบครัว และเงินที่ได้มาจากการขายทรัพย์สิน เป็นจำนวนเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ หรือประมาณกว่าหกล้านบาท มาลงทุนซื้อ eos ที่ blocktrade ปรากฏว่า ตอนที่ต้องก็อปปี้เลขบัญชีของตัวเองนั้น เขาดันไปเลือกผิด และได้ไปเลือกใส่ชื่อบัญชีถัดไปซะอย่างนั้น ทำให้ eos กว่า 12,000 tokens ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น

เขาเองก็ไม่รู้จะไปตามคืนที่ใหน เพราะว่ามันไม่มีที่อยู่ผู้รับ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เหมือนกับธนาคาร เขาจึงมาประกาศเขียนบนบล็อกของ eos เพื่อของร้อง และขอความเห็นใจ จากเจ้าของบัญชีนั้น ผ่านสื่อกลาง และเขาก็พยายามติดต่อ trading market ไปเพื่อของข้อมูล ของเจ้าบัญชีนั้น แต่ก็ไม่ได้ผล โดยเขาก็หวังว่าอยู่ลึกๆว่า หากเขาประกาศให้ส่วนแบ่ง ก็อาจได้ eos คืนมาบ้าง โดยมาประกาศขอร้องอยู่เป็นประจำ

(spark post)

เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งเดือน ปรากฏว่า เขาไม่ได้ eos คืนมา และบุคคลเจ้าของบัญชีที่เขาโอนไปผิดนั้น ยังขาย eos ของเขาไปจนเกลี้ยง แถมบุคคลนี้ ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่มาก ที่มีการแลกเปลี่ยนซื้อขาย วงเงินหลายล้านดอลลาร์เลยทีเดียว ซึ่งนี่ก็แสดงให้เห็นว่า คนที่รวยทรัพย์ ก็ไม่ได้รวยนำ้ใจเสมอไป มิหนำซ้ำยังขี้โกงอีกต่างหาก

หากเป็นธนาคารทั่วไป ที่มีระบบแกะรอย เขาผู้นี้คงจะได้เงินคืนอย่างรวดเร็ว แต่ว่า Decentralization อย่าง Blockchain นั้นจะไม่สามารถติดต่อและติดตามใครได้ คุณจะเห็นก็แต่บัญชีเขาเท่านั้น ซึ่งก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ในตัวของมันเอง

ขอให้ทุกคนมีสติ สมัยนี้คนเห็นแก่ตัวเยอะ พลาดพลั้งไป เอาอะไรคืนลำบาก ต้องทำใจอย่างเดียวครับ

ขอบคุณที่ติดตามและสนับสนุนกันมาเสมอ

หมู @impressable