สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน

ชีวิตเราเริ่มเข้าสู่ New Normal กันแล้ว หลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างเปลี่ยนไปหลังจากเกิดสงครามเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการเรียนของเด็กๆ ซึ่งปกติก็ต้องไปเรียนที่โรงเรียน ตอนนี้ยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสอยู่ ทางกระทรวงศึกษาธิการก็เลยให้นักเรียนเรียนอยู่ที่บ้าน เรียนแบบออนไลน์ หรือการออกนอกบ้านจะต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือ Face Shield ทุกครั้ง ถ้าไม่สวมก็จะโดนศาลเตี้ยของสังคมลงโทษ คือโดนมองด้วยสายตารังเกียจ หรือโดนรุมประนาม จะเดินห้างก็ต้องสแกนคิวอาร์โค้ด คือถ้าไม่มีโทรศัพท์เข้าห้างไม่ได้นาจา..... เมื่อวานบัวว่าจะแวะไปซื้อของใช้ที่บิ๊กซี ปรากฎว่าคนแน่นม๊วกกก.... แล้วต้องสแกนคิวอาร์โค้ดด้วย บัวก็เลยต้องถอยกลับบ้าน เพราะคนเยอะกว่าทุกๆ วัน และอีกอย่างเวลาบัวออกนอกบ้านแล้วจะไม่ใช้อินเตอร์เน็ตเลย ปกติบัวจะใช้ไวไฟที่บ้าน เพราะไม่ค่อยได้ออกนอกบ้านอยู่แล้ว หรือออกไปทำธุระก็ไม่นาน ก็เลยไม่อยากสิ้นเปลือง งกแหล่ะ ดูออก 555

วันนี้เปิดเทอมออนไลน์วันแรก 18 พฤษภาคม 2563 ระบบล่มจร้าาา.... เน็ตแรงแค่ไหนก็ไปไม่ถึง ระบบหมุนติ้วๆ เป็นลูกข่างเลย เอาจริงๆ บัวไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้เลย เพราะเด็กนักเรียนหลายๆ คนที่บ้านยากจน แทบจะเข้าไม่ถึงระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้วยซ้ำ อย่าพูดถึงเรื่องมือถือ ทีวี หรือคอมพิวเตอร์เลย บ้านบางคนไม่มีไฟฟ้าใช้เลย จนคือจน ไม่มีคือไม่มี บัวเคยอยู่จุดนั้นมาแล้วเข้าใจเลย แล้วบางบ้านผู้ปกครองอาจจะมีทั้งทีวี มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ แต่ต้องออกไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในบ้าน ไม่มีเวลามานั่งเฝ้าลูกเรียนออนไลน์ และประการสุดท้าย เด็กๆ กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ ต้องอยู่กับเพื่อนวัยเดียวกัน ต้องการปล่อยพลัง จะให้มานั่งเฝ้าหน้าจอตลอดเวลามันไม่ได้ เด็กต้องได้รับการพัฒนาทั้ง IQ และ EQ คือถ้าจะเปิดเรียน 1 กรกฎาคม ก็เปิดไป แล้วก็ไปชดเชยช่วงที่ปิดภาคเรียนแทน ปกติจากที่เคยปิดเป็นเดือน ก็ไม่ต้องปิด ปิดแค่เสาร์-อาทิตย์พอ

และที่สำคัญมากๆ ก็คือ แม่สอนลูกไม่ได้ เมื่อก่อนมีความใฝ่ฝันว่าโตขึ้นจะเป็นครู อยากจะสอนหนังสือเด็กนักเรียนให้ได้ความรู้ เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเป็นครูได้ ก็ตอนสอนหนังสือลูกนี่แหล่ะค่ะ แทบจะกินหัวลูก โมโหที่ลูกทำไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าง่ายๆ แค่นี้ทำไมทำไม่ได้ แต่ไม่นึกถึงตอนตัวเองเป็นเด็กขนาดนี้ทำได้หรือยัง ตอนนี้ตัวเองรู้แล้วไง ก็เลยคิดว่ามันง่ายๆ จนตอนนี้ลูกไม่อยากจะเรียนด้วย 555

ก่อนที่จะมีการเรียนออนไลน์ ทางคุณครูประจำชั้นก็เชิญผู้ปกครองไปพูดคุย ทำความเข้าใจ และรับใบงานการจัดการเรียนการสอนทางไกล ก่อนจะพูดคุยเจอหน้ากันก็ยิงกันเลย วัดอุณหภูมิร่างกาย และฉีดแอลกอฮฮล์ ทำตามขั้นตอนของสารธารณะสุขเลย

ผู้ปกครองที่มาเมื่อวานคือน้อยพอสมควร บางคนก็ติดอยู่ต่างจังหวัดมาไม่ได้ ก็มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่มา

ก่อนแยกย้ายกลับ ครูก็แจกเล่มใบงานจัดการเรียนการสอนทางไกลให้กับผู้ปกครองของนักเรียนทุกคน เล่มใบงานนี้ใช้ทำงานระหว่างที่เรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน เมื่อเรียนครบหนึ่งสัปดาห์ คุณครูก็จะนัดให้ส่งเล่มใบงานคืน และรับเล่มใบงานเล่มใหม่ไป เป็นการดูพัฒนาการของเด็กด้วย จนกว่าจะมีการเปิดการเรียนการสอนปกติ

บัวตั้งใจจะให้ลูกชายเรียนออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์ แต่ในเมื่อระบบล่ม หมุนเป็นลูกข่าง ก็เลยให้ลูกชายเรียนผ่านทีวี ตอนแรกคิดว่าทีวีอาจจะดูสดไม่ได้ (สดก็สดแบบรีรัน) เพราะไม่มีจานดานเทียม หรือกล่องรับสัญญาณของกสช. แต่พอระบบล่มก็กลัวลูกจะไม่ได้เรียน ก็เลยลองมาดูที่ทีวี ซึ่งบัวใช้อินเตอร์เน็ตของ AIS ซึ่งเขามีช่องไว้สำหรับเรียนออนไลน์เหมือนกัน ลูกชายบัวเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เปิดไปที่ช่อง 702 ซึ่งก็เคยลองเรียนออนไลน์มาแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนที่แล้ว แต่วันนี้เอาจริง

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันเสมอมา
แล้วเจอกันโพสต์หน้าจ้า เลิฟนะยู้วววว....