ผีตายโหง

in #thai5 years ago

pccg7sriwg.jpg

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Steemians ทุกท่าน

ฮัลโหลวววว.... วันหยุด.... วันเสาร์ที่ 27 ก.ค.62 มาล้าววววว....มาล้าววววว กลับมาพบกันอีกแว้วววว.... กลับมาพบกันเช่นเคยเป็นประจำทุกวันค่ะ ช่วงเน้.... ทาง @thaiteam เขาก็มีกิจกรรม การประกวดรูปแบบใหม่ เพิ่งเริ่มจัดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก กิจกรรมนี้เรียกว่า "ประสบการณ์ ที่แปลกประหลาด" เป็นการเขียนเรื่องราว หรือประสบการณ์แปลกๆ หลอนๆ ชวนขนหัวลุก ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือจะแต่งขึ้นก็ได้ กิจกรรมก็เริ่มได้มาได้ 2 วันแล้ว เห็นเพื่อนๆ เริ่มส่งเรื่องราวหลอนๆ แปลกๆ มาบ้างแล้ว ตอนแรกคิดว่ายังไง๊....ยังไง ก็คงไม่ได้ร่วมกิจกรรมนี้แน่ๆ แต่พอนั่งนึกไปนึกมา ตอนเด็กๆ ก็ฟังเรื่องหลอนๆ ชวนขนหัวลุกจากพ่อบ่อยๆ เรื่องที่มีคนเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นพวกเรายังอยู่ที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก แม่ยังไม่ได้ย้ายไปอยู่ชัยภูมิ ตอนนั้นบัวไปเช่าร้านเปิดเป็นร้านเกมส์อยู่ใจกลางอำเภอพบพระ บ้านแม่ห่างจากร้านเกมส์ประมาณ 3 กิโลเมตร บัวจะนอนที่ร้านไม่ได้กลับบ้าน จะกลับเฉพาะวันที่เอาผ้าไปซัก ตอนเช้าหลังจากที่บัวทำความสะอาดร้านแล้ว บัวก็เก็บเสื้อผ้าไปซักที่บ้านแม่ เพราะที่นั่นมีเครื่องซักผ้า พอไปถึงแม่กำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่ หลังจากกินข้าวเสร็จแม่ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 2-3 วันก่อน อีไหวมันตายแล้วนะ ด้วยความตกใจเพราะอายุยังไม่เยอะ บัวก็รีบถามขึ้นมาทะลุกลางป้องเลย เอ้าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วยังเห็นอยู่เลยตายได้ไง เป็นอะไรตาย แม่ก็เลยตอบว่าผูกคอตาย ไหวคนนี้ตอนนั้นอายุประมาณ 28-29 ปี เป็นกระเทยค่ะ กระเทยที่ไม่ได้แต่งหญิงจ๋า เพียงแค่ไว้ผมยาว เดินเหมือนผู้หญิง บัวจะเรียกแกว่าพี่ไหว ก็ไม่สนิทหรอกค่ะ แต่ถ้าเจอกันก็ทักทายตามประสาคนรู้จัก

พี่ไหวแกมีอาชีพขายส้มตำไก่ย่าง เร่ไปตามหมู่บ้านต่างๆ แกอยู่กับแม่ที่แก่แล้วเพียง 2 คน ส่วนลูกหลานคนอื่นๆ ก็ไปทำมาหากินที่อื่น นานๆ ถึงจะกลับมาเยี่ยมบ้านที วันก่อนที่แกจะฆ่าตัวตาย แม่แกก็บ่นเรื่องขายของนี่แหล่ะ ว่าเงินที่ได้จากขายของไปไหนหมด เอาไปซื้อเหล้า หรือเอาไปให้ผู้ชายหมดหรือไง เงินถึงไม่มีเหลือ แกก็เกิดความน้อยใจว่าโตแล้วทำไมแม่ชอบบ่น แล้วก็บ่นเรื่องเดิมๆ ทุกวัน หลังจากที่แกกลับจากขายของตอนเย็น แกก็ไปนั่งก๊งเหล้ากับเพื่อนสาวที่สนิท ที่ตั้งวงก๊งเหล้ากันเป็นประจำทุกเย็นอยู่แล้ว ซึ่งวงเหล้าก็อยู่ตรงข้ามบ้านแกนั่นแหล่ะค่ะ พอกินเหล้าเมาแกก็ร้องไห้ บ่นพึมพำว่าทำไมแม่ชอบบ่นแต่แกเรื่องเงินไม่เหลือ ทุกคนในวงเหล้าก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะแกโดนแม่บ่นเรื่องนี้เป็นประจำอยู่แล้ว คืนนั้นวงเหล้าเลิกประมาณตี 3 เพื่อนๆ ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

พอเช้าแม่พี่ไหวก็เดินไปปลุกพี่ไหวให้ตื่นแต่ เพราะสายแล้วก็ยังไม่ตื่น แกเดินไปที่ห้องพี่ไหวก็ไม่เจอพี่ไหว แกก็เลยเดินมาดูที่หน้าบ้านร้องตะโกนเรียก ก็เงียบไม่มีเสียงตอบรับ แกก็เดินมาเกือบถึงประตูรั้ว ข้างๆ รั้วที่บ้านแกจะมีต้นมะขามใหญ่อยู่ต้นหนึง แกก็เลยมองขึ้นไปบนต้นมะขาม ภาพนั้นทำให้แกตกใจมาก แกหวีดร้องเสียงหลงด้วยความที่ตกใจและทำอะไรไม่ถูก เพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็วิ่งมาที่บ้านแก ด้วยความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพที่ทุกคนเห็นคือ ผ้าขาวม้าด้านนึงผูกอยู่กับกิ่งมะขามใหญ่ อีกด้านหนึงมัดอยู่ที่คอพี่ไหวห้อยโตงเตงลิ้นจุกปาก ตาถลน พวกผู้ชายที่มามุงดูต่างก็ช่วยกันแก้มัด และนำร่างพี่ไหวลงมาจากต้นมะขาม คนอีสานถ้าผีตายโหง คือตายผิดธรรมชาติ เช่น ฆ่าตัวตาย เกิดอุบัติเหตุ ประเภทนี้เขาจะเอาศพไว้ที่วัด แล้วก็เผาเลย ไม่เก็บศพไว้หลายวัน เพราะเชื่อกันว่าผีตายโหงนั้นเฮี้ยนนัก พี่ไหวก็เช่นกันเผาเย็นวันเดียวกันนั่นเอง

หลังจากงานศพพี่ไหวผ่านไปเพียง 3 วัน ยายเนียงอายุประมาณ 60 ปี แกอาศัยอยู่กับสามี 2 คน ซึ่งแกมีบ้านอยู่ติดกับบ้านพี่ไหว และบ้านแกก็อยู่ไม่ไกลจากต้นมะขามนั้นนัก คือมองไปก็เห็นชัด ประมาณตี 5 ตี 5 ต่างจังหวัดมันมืดสลัวๆ คือใกล้สว่างแล้วแกลุกขึ้นมาหุงข้าวเตรียมใส่บาตร ซึ่งแกทำเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว หลังจากหุงข้าวเสร็จแกก็เดินมาเปิดประตูหน้าบ้าน ปัดกวาดแคร่หน้าบ้านที่แกใช้นั่งเล่นนอนเล่นตอนกลางวัน ระหว่างที่แกปัดถูแคร่อยู่นั้น เผอิญสายตาแกเหลือบมองไปทางต้นมะขาม ที่อยู่ห่างจากแกประมาณ 20 เมตรเท่านั้นเอง คุณพระ!!!!....แกเห็นคนห้อยโตงเตงลิ้นจุกปาก ตาถลน หลังจากนั้นคนที่ห้อยโตงเตงอยู่บนต้นมะขามก็ค่อยๆ ตัวสูงขึ้น....สูงขึ้น แกถึงกับเข่าอ่อน ร้องกรีดดังลั่นบ้าน สามีแกที่อยู่ในบ้านรีบวิ่งออกมาดู เห็นยายเนียงนั่งกองอยู่กับพื้น ฉี่ราด ผมตั้งโด่ ก็ละล่ำละลักถามว่า "แกเป็นอะไรยาย....เป็นอะไร ทำไมเป็นแบบนี้" ยายเนียงแกกลัวจนพูดไม่ออก ได้แต่ชี้นิ้วไปทางต้นมะขาม สามีแกก็เลยมองตาม แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร ยายเนียงมีท่าทางหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา แกพูดแต่ว่า "ผีอีไหว ผีอีไหว กูอยู่ไม่ได้แล้ว" สามีแกก็เลยโทรตามลูกชายให้กลับมาบ้าน ซึ่งอยู่ชายแกอยู่อีกอำเภอหนึง เมื่อลูกชายมาถึงแกก็ขอไปอยู่กับลูกชายทันที จนเดี๋ยวนี้แกก็ขายบ้านนั้นไปแล้ว เพราะไม่กล้ากลับมาอยู่อีกเลย แต่บัวก็ไม่รู้ว่าคนอื่นๆ ที่อยู่แถวระแวกนั้นเคยเจอหรือเปล่า

พอแม่เล่าจบบัวเกิดความกลัวมาก หลังจากซักผ้าเสร็จแล้ว บัวจะกลับไปเปิดร้าน บัวต้องผ่านบ้านพี่ไหว จังหวะที่ใกล้ถึงบ้านพี่ไหวบัวกลัวแต่ก็ยังมีแอบมองต้นมะขามต้นนั้น ไม่ใช่ว่าอยากจะเจอนะคะ แต่มันเป็นสัญชาตญาณความอยากรู้อยากเห็น อยากเผือกว่างั้น แต่เมื่อหันไปมองแล้วไม่เจออะไร บัวก็รีบบิดแมงกะไซด์กลับร้านอย่างเร็วเลยค่ะ ทุกครั้งที่กลับบ้านแม่บัวจะรีบขี่รถอย่างไว เพื่อให้ผ่านตรงจุดนั้นโดยเร็ว


ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันเสมอมา
แล้วเจอกันโพสต์หน้าจ้า เลิฟนะยู้วววว....

1qd76sl82g.gif

Posted using Partiko Android

Sort:  

Thank you so much for being an awesome Partiko user! We have just given you a free upvote!

The more Partiko Points you have, the more likely you will get a free upvote from us! You can earn 30 Partiko Points for each post made using Partiko, and you can make 10 Points per comment.

One easy way to earn Partiko Point fast is to look at posts under the #introduceyourself tag and welcome new Steem users by commenting under their posts using Partiko!

If you have questions, don't feel hesitant to reach out to us by sending us a Partiko Message, or leaving a comment under our post!

Thank you for support.

Posted using Partiko Android

thai Flac s.png

โพสต์นี้ ได้รับการเสนอชื่อ เพื่อเข้าร่วมการประกวด
Strange Events Story Contest ครั้งที่ # 1
นอกจากนี้ ยังได้รับ ป้ายเสนอชื่อ กำกับคุณภาพ ในนามของ @thaiteam
คุณสามารถเพิ่มเติมป้าย ในโพสต์นี้ได้ โดยการแก้ไข แต่ไม่สามารถ นำไปใช้ในโพสต์อื่น
เนื่องจาก เป็นป้ายกำกับคุณภาพของ @thaiteam.

ลิงค์ไปยังโพสต์ของคุณ Nominate Post Day # 4


thai Flac s.png

Good Work!


mnte00wst2.png

@thaiteam

ขอบคุณค่ะ

Posted using Partiko Android

Coin Marketplace

STEEM 0.17
TRX 0.15
JST 0.028
BTC 57135.10
ETH 2349.23
USDT 1.00
SBD 2.39