The world biggest offshore wind farm now operates สถานีผลิตไฟฟ้าจากกระแสลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกเปิดดำเนินการ

สำหรับการหันมาใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถใช้ซ้ำและทดแทนได้ มาจะเป็นก้าวใหม่ของทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่ในส่วนของรัฐบาลแต่ก็เกี่ยวข้องกับภาคเอกชนเช่นเดียวกัน เป็นข่าวมาตั้งนานสำหรับสถานีผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดดำเนินการเมื่อวานนี้ (6 กันยายน 2018)

สำหรับสถานีผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ Irish Sea โดยสถานี Walney Extension Offshore Wind Farm มีขีดความสามารถในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานกระแสลมอยู่ที่ 659 เมกาวัตต์ และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 600000 ครัวเรือนในประเทศอังกฤษ โดยสถานีผลิตไฟฟ้าแห่งนี้เป็นของบริษัท Orsted ซึ่งลงทุนเกี่ยวกับด้านพลังงานจากประเทศเดนมาร์ค

สถานีผลิตไฟฟ้าจากกระแสลมแห่งนี้เป็นแห่งที่ 11 ของบริษัท Orsted มีจำนวนกำลังหันลมทั้งหมดจำนวน 87 ตัว จำนวน 47 ตัวเป็นเทคโนโลยีของ MHI Vestas และอีก 40 ตัวเป็นเทคโนโลยีของ Siemens Gamesa ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เทียบเท่าสนามฟุตบอลขนาด 20000 ที่นั่ง โดยทางบริษัท Orsted ถือหุ้นในการลงทุนจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ และกองทุนบำนาญของประเทศเดนมาร์ค PFK และ PKA ถือหุ้นอย่างละ 25 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนลงทุนทั้งหมด

Matthew Wright กรรมการผู้จัดการของบริษัท Orsted ประจำประเทศอังกฤษได้กล่าวว่า ประเทศอังกฤษเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าจากกระแสลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสถานี Walney Extension Offshore Wind Farm เป็นตัวอย่างที่ดีในความสำเร็จของการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานกระแสลม โดยการดำเนินการสร้างสถานีดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นตามเวลาที่กำหนดในจำนวนงบประมาณที่ตั้งไว้ และถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของบริษัท Orsted ในการที่จะเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานมาเป็นการใช้พลังงานที่มาจากเหล่งพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ประเทศในทวีปยุโรปถือได้ว่าเป็นแหล่งที่ตั้งที่สำคัญสำหรับการผลิตไฟฟ้าจากกระแสลมนอกชายฝั่ง มีจำนวนกังหันลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ามากกว่า 4000 ตัว ตั้งอยู่ใน 11 ประเทศ มีจำนวน 13 สถานีที่ได้เปิดดำเนินการในปี 2017 โดยประเทศอังกฤษได้ติดตั้งกำลังผลิตจำนวน 1.7 กิกาวัตต์ และประเทศเยอรมันนีได้ติดตั้งกำลังผลิตจำนวน 1.3 กิกาวัตต์ในปี 2017 เช่นเดียวกัน (อ้างอิงข้อมูลจาก WindEurope)