My dad is my hero

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Steemit,

วันนี้วิไปเรียนโยคะ แบบ warm up มาช่วง 4 โมงเย็น และเลิกประมาณ 6 โมงเย็นค่ะ (แค่ไปยืดเส้นยืดสายทำความรู้จักกันไว้กับเพื่อนใหม่ๆ) ก็ยังไม่มีอะไรหวือหวา แต่ก็มีเพื่อนใหม่ๆ จากทุกมุมโลกมาเรียน แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมันนี ไอร์แลนด์ อังกฤษ สเปน และอีกหลายประเทศ มีวิเป็นนักเรียนไทยคนเดียวของคลาส ก็น่าตื่นเต้นดีค่ะ ไว้จะเล่าให้ฟังในโพสต่อๆ ไปนะค่ะ วันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะเกรงใจเพื่อนใหม่ค่ะ ไว้คราวหน้าจะขออนุญาติเพื่อนใหม่ ว่าอาจจะขอเอารูปมาลงใน steemit ดังนั้นก่อนที่เราจะทำอะไร ที่ต้องมีรูปบุคคลอื่นแล้วเราเอามาลงโพส บางทีเราต้องขออนุญาติเค้าก่อนจะดีกว่านะค่ะ

รูปคุณพ่อกับหลานสุดที่รักสวาทขาดใจ (แต่ไม่ใช่ลูกของวินะค่ะ ตอนนี้ต้องให้คุณพ่อร้องเพลงรออุ้มหลานแท้ๆ ไปก่อน อิๆ)

ดังนั้นตอนนี้วิก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากมาย ก็เลยยังมีแรงมาเขียนโพสลงใน steemit วันนี้วิอยากจะเล่าเรื่องบุคคลสำคัญที่มีผลกับชีวิตวิอย่างมาก ก็คือคุณพ่อของวิเองค่ะ คุณพ่อ สมเกียรติ @somkiat ตอนนี้คุณพ่อของวิได้ลองมาเล่น steemit อย่างจริงจังก็สักอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากตอนที่คุณพ่อสมัครเล่นใหม่ๆ วิยังไม่ได้เจอกับคุณพ่อ มันเลยค่อนข้างจะลำบากที่จะอธิบายให้เข้าใจ ตอนที่วิไปกรุงเทพฯ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็เลยได้มีโอกาสพูดคุยอย่างจริงจัง คุณพ่อก็ได้โพสเรื่องราวของคุณพ่อลงใน steemit ไป 4 บทความแล้ว

ตอนไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ตอนนั้นวิยังเป็นสาวผมหยิกหัวทองอยู่เลย เด็กกรุงเทพฯมาก 555

ถึงคุณพ่อวิช่วงแรกๆ จะค่อนข้างกังวลว่าตัวเองจะเข้าใจไหม เพราะคิดว่าตัวเองอาจจะอายุมากไป ไม่ทันเทคโนโลยี แถมเป็นภาษาอังกฤษหมด วิก็คอยให้กำลังใจและความเชื่อมั่นว่า ถ้าเราเรียนรู้ศึกษา ก็จะเข้าใจไม่เกี่ยวกับเรื่องอายุอะไรเลย วิเชื่อว่าคุณพ่อของวิทำได้ เพราะวิได้เลือดความเก่งเรื่องทำงานและความขยันมาจากคุณพ่อค่ะ คุณพ่อมักจะสอนวิเสมอว่าให้เป็นคนที่คอยหัดสังเกตุและให้พยายามทำอะไรด้วยตัวเอง ถึงเราจะเป็นผู้หญิงก็ต้องทำอะไรเองให้ได้หมด ซึ่งตรงนี้วิถือว่าวิโชคดีที่มีคุณพ่อคอยสอนให้เราเป็นคนไม่งอมืองอเท้า รอโชคชะตา

คุณพ่อของวิเป็นคุณพ่อที่มีความรับผิดชอบสูงมาก ถึงแม้คุณพ่อจะจบแค่ชั้น ป 4 เนื่องจากฐานะทางบ้านตอนที่คุณพ่อวิเด็กๆ ค่อนข้างยากจน เพราะมีพี่น้องเยอะ รวมทั้งหมด 9 คน และคุณพ่อเป็นลูกชายคนโต ถึงจะมีพี่สาวอีก 2 คนก็ตาม คุณพ่อก็เลยไม่ได้เรียนหนังสือต่อ ถึงจะเป็นคนหัวดีแต่ถ้าฐานะทางการเงินไม่อำนวยโอกาสจะศึกษาต่อก็ไม่มี คุณพ่อของวิทำงานตั้งแต่เด็กๆ จนเคยได้ไปอยู่เมืองนอก ช่วงที่คนไทยนิยมไปก็คือ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เดี๋ยววิว่าคุณพ่อก็คงอยากจะเล่าเรื่องชีวิตตอนที่ไปอยู่ในเมืองนอกให้ฟังนะค่ะ ว่าจะทรหดอดทนขนาดไหน แต่ที่รู้อย่างคือ คุณพ่อไปอยู่ไหนเจ้านายก็รัก เพราะเป็นคนไม่ปฏิเสธที่จะทำงานไม่ว่าจะหนักหรือเบา เป็นคนที่พึ่งพาได้สำหรับทุกคนจริงๆ ค่ะ

เสียดายรูปนี้ช่างกล้องมือสั่นไปหน่อย อิๆ แต่ก็ดูหน้าตาดีทั้งตระกูล 555 (หลงตัวเองจุงเบย)

การที่คุณพ่อไม่ได้เรียนหนังสือจนจบระดับมัธยมหรือมหาวิทยาลัย ก็ไม่ได้ทำให้คุณพ่อของวิยอมแพ้ต่อโชคชะตา สิ่งไหนไม่เป็นก็หัดให้เป็น เช่นการหัดขับรถให้ชำนาญในกรุงเทพฯ เพื่อที่จะได้ให้เค้ารับเข้าทำงานในบริษัทเอกชนของต่างประเทศ หรือการที่ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษ แต่พอต้องทำงานกับเจ้านายต่างชาติก็ฝึกพูด อ่านเขียนจนสื่อสารได้ วิว่าบางทีก็เก่งกว่าคนที่จบระดับมหาวิทยาลัยอีกนะค่ะ วิภูมิใจที่ิเกิดมาเป็นลูกของพ่อสมเกียรติค่ะ และส่ิ่งที่สำคัญและวิคิดว่าคุณพ่อภูมิใจที่สุดก็คือ เรื่องที่ทำให้ลูกสาวทั้ง 3 คนของคุณพ่อ เรียนจบระดับมหาวิทยาลัย วิบอกเลยว่าวิแถบไม่ต้องลำบากคิดเรื่องการใช้จ่ายตอนเรียนเลยว่า พ่อจะมีเงินส่งให้เรียนไหม เพราะพ่อดูแลอย่างดีค่ะ ถึงพ่อจะลำบากหาเงินก็ไม่เคยบ่นให้ลูกได้ยินเลยค่ะ ตอนนั้นวิก็ยังเด็ก พ่อไม่เคยให้ต้องลำบากก็เลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ตอนนี้รู้เลยว่ากว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทนี้เลือดตาแทบกระเด็น วิเลยคิดว่าคุณพ่อวินี้เก่งมากๆ เลี้ยงลูก 3 คนให้อยู่ดีมีสุขมาตลอด

มีหลายๆครั้งที่วิชอบทำให้คุณพ่อไม่สบายใจ เพราะความที่เราดื้อ มั่นใจในตัวเอง ทัศนคติเราไม่ตรงกัน ก็เลยทะเลาะกันบ่อยๆ แต่คุณพ่อก็ให้อภัยแถมคอยช่วยเหลือค้ำจุนเสมอมาจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้เราไม่ทะเลาะกันแล้วค่ะ เนื่องจากวิมองเห็นว่าชีวิตมันไม่ง่ายและคำพูดที่คุณพ่อสอนก็ถูกต้องเสมอ เพราะเค้าอาบน้ำร้อนมาก่อนเรา แล้ววิก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว นิ่งขึ้น คิดเป็นมากขึ้นกว่าแต่ก่อน 555

คุณพ่อกับน้องๆ ของวิค่ะ

โดยเฉพาะตอนนี้เราทั้งคู่ก็คุยกันเกือบทุกวัน ถึงจะอยู่กันคนละจังหวัด เพราะเรามีเรื่อง steemit ช่วยสานสัมพันธ์ให้เราคุยกันรู้เรื่อง เพราะวิเองก็ยังใหม่กับ steemit เวลาคุณพ่อถามในส่วนที่วิตอบได้วิก็จะตอบ ถ้าไม่ได้ก็จะไปค้นคว้าหามาให้ ซึ่งก็ดีกับเราทั้งคู่ คุณพ่อวิเป็นคนขี้อายไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง มักจะกลัวไปว่าจะเขียนแล้วมีคนอ่านไหม เราจะคุยกับเค้ารู้เรื่องไหม วิก็จะบอกเสมอว่าให้ลองทำเลยพ่อ เดี๋ยวเราก็จะรู้เอง เพราะทุกอย่างต้องมีก้าวแรกทั้งนั้น พอทำแล้ว เราก็จะรู้ว่าอันนี้ทำไปมันอาจจะไม่เวิร์ก คือ ต้องลองทำแล้วเราจะเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เอง แต่ถ้าไม่ลองทำลองเขียนลองโพสแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่เราทำมันถูกหรือผิด

พ่อตากับลูกเขยรักกันดีค่ะ

วิเลยชอบ steemit ขึ้นมาอีก นอกจากจะได้เพื่อนใหม่ๆ ดีๆ คอยให้กำลังใจแล้ว วิยังได้ใช้เวลาคุยกับคุณพ่อในเรื่องใหม่ๆ ที่เราก็พึ่งจะรู้ ไม่ว่าจะเรื่อง เงินดิจิตอล การเอาเงินดิจิตอลไปแลกเป็นเงินบาท หรืออีกหลายๆ เรื่องที่เราจะต้องเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เป็นครอบครัวทันยุคทันสมัยยุค 4.0 จริงๆ 555 ที่สำคัญวิเชื่อเลยค่ะ ว่า steemit เป็นสังคมที่เปิดกว้าง ไม่จำกัดเรื่องเพศและวัย ขอให้คุณเป็นคนมีจิตใจรักที่จะเรียนรู้ และพร้อมที่จะแบ่งปัน ประสบการณ์ของตัวเองให้เพื่อนๆ อย่างสร้างสรรค์ เท่านี้คุณก็มีความสุขใน steemit ได้ทุกคน เพราะไม่มีใครแก่เกินที่จะเรียนรู้ในโลกของ steemit ค่ะ

ผู้มีพระคุณทั้งสาม ต่อวิและสามีวิค่ะ (คุณแม่สามี คุณแม่และคุณพ่อของวิ ว่าจะชวนมาเล่น steemit กันให้หมด อิๆ)

สุดท้ายวิขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้คุณพ่อสมเกียรติด้วยนะค่ะ อยากให้คุณพ่อมีความสุขแล้วได้ใช้ประสบการณ์ชีวิตที่ตัวเองสั่งสมมาแชร์ให้กับเพื่อนๆ รุ่นน้องค่ะ

รักพ่อมากๆ นะค่ะ

วิ