พี่ชายที่แสนดี

in #thai6 years ago

พี่คือพ่อคนที่สองรองจากพ่อ
คอยพนอเลี้ยงดูน้องไม่หมองศรี
มีหรือจนไม่เคยบ่นเลยสักที
จนน้องนี้แต่งงานไปไกลพี่ยา

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวสตีมอิททุกท่าน วันนี้ขออณุญาตเล่าถึงเรื่องราวของพี่ชายคนนี้ให้รับฟังกันนะคะ

20180215_164220.jpg

หลังจากที่พ่อและแม่จากฉันไปแล้ว พี่คนนี้ก็เลี้ยงน้องทั้ง3คนเป็นเวลาต่อมา จนกระทั่งพี่ทั้ง2คนแต่งงานมีครอบครัวกันไปหมด เหลือเพียงแค่ฉันคนเดียว

ถึงฤดูทำนา พี่จะตื่นแต่เช้าประมาณตี4 ไล่ควายออกไปยังทุ่งนา ส่วนพี่สะใภ้ก็นึ่งข้าวเตรียมหาอาหาร ช่วงนั้นจะมีเห็ดปลวก พี่สะใภ้ก็จะย่างเห็ดและแหลมไม้เสียบพริกสดเอาไปย่างด้วยกัน พริกสดจะสุกเร็วกว่า พอย่างสุกแล้ว ก็เอาพริกลงใส่ครกตำแล้วฉีกเห็ดปลวกลงไป ตำได้ที่แล้วตักน้ำปลาร้าใส่ลงไป แล้วตำให้เข้ากัน จะได้ป่นเห็ดปลวกที่อร่อยมาก เห็ดปลวกจะมีรสหวาน แค่ย่างไฟแล้วเอามากินก็หอมอร่อย

หลังจากเตรียมของเสร็จ พี่สะใภ้จะนำตะกร้ามาใส่อาหาร ส่วนอีกข้างก็จะเอาลูกลงไปนั่งแล้วก็ใส่บ่าหาบไปนา ส่วนฉันก็เดินตามหลัง

ถนนหรือทางไปนาในตอนนั้นยังไม่เจริญ จะเป็นทางแคบๆพอที่จะขับเกวียนได้ สองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยต้นไม้ บางแห่งก็เป็นเถาวัลย์ปกคลุมหนาทึบ ขณะที่เดินไปฉันจะมองหาจอมปลวกตามข้างทาง พอเห็นจอมปลวกฉันก็รีบเข้าไปหาเห็ดปลวก ถ้าเจอเห็ดปลวกฉันจะดีใจมาก จะนำมาแกงหรือป่นก็ได้

20180206_082153.jpg

พอมาถึงทุ่งนาพี่ก็ไถ-คราดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เรียกพี่มากินข้าว กินข้าวเสร็จพี่และพี่สะใภ้ก็ไปดำนา ส่วนฉันก็เอาหลานนอนในอู่ ไกวแล้วร้องเพลงกล่อมไปด้วย อู่จะใช้ผ้าขาวม้าเอาเชือกมัดทั้ง2ข้างแล้วนำไปมัดติดกับเสาเถียงนา

พอใกล้เวลาอาหารเที่ยง ฉันจะสับมะละกอไว้ ส่วนพี่กับพี่สะใภ้ก็จะใช้ผ้าดางไปช้อนตามสระ สิ่งที่ได้ก็คือแมงดาน้อย แมงข้าวสาร แมงละงำ แมงอีด แมงงอดน้ำ แหง่วและไม่รู้จักชื่อก็มี ได้พอสมควรแล้วก็นำมาแกงใส่หน่อไม้ดองหรือบ้านฉันเรียก"หน่อไม้ส้ม"ต้องเป็นหน่อไม้ส้มที่ทำได้สัก7-10วัน จึงจะมีกลิ่นหอม พอแกงเสร็จกำลังร้อนๆ พี่ก็ตำส้มตำใส่ปลาร้าที่มีกลิ่นออกโหน่งๆหน่อย โอ้โห!
สุดยอดเลยค่ะ ฉันชอบมาก ไม่รู้จะหากินได้อีกที่ไหน คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ อร่อยไม่รู้ลืมจริงๆ

20180208_165744.jpg

เสร็จจากหน้านาพี่ก็จะทำไร่ปอ ไร่มันสำปะหลัง ถ้าว่างก็จะไปรับจ้างเลื่อยไม้บนภูเขา จะเลื่อยกับเพื่อน4-6คน พอตัดต้นขาด ก็ตัดปลายออก แล้วกลิ้งไม้ลงจากภู กว่าจะเอาไม้ลงจากภูได้ก็เหนื่อยเอาการอยู่ แต่ก็ต้องทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว

สมัยนั้นฉันไม่ได้กินอาหารดีๆหรอก แค่ได้กินปลาทูหรือไข่เจียวก็ถือว่าดีแล้ว อาหารหลักที่กินเกือบทุกมื้อก็คือส้มตำ สำหรับฉันแล้ว มันเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้จริงๆ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

เงินสมัยนั้นหายาก เราจึงกินแบบตามมีตามเกิด มะละกอ พริก มะเขือเทศก็ปลูกไว้กินเอง แถมยังดกและแผ่กิ่งก้านอีกด้วย ปลาร้าพี่ก็ทำเอง ในฤดูฝนช่วงน้ำหลากมีปลาเยอะ พี่จะทำปลาร้า ได้ขวบปีค่อยกิน แต่ฉันรู้สึกว่ามันอร่อยกว่าทุกวันนี้

พูดถึงหน้าแล้งเราก็หาขุดปู สำหรับเมนูของปูจะป่นหรือจะอ่อมก็ได้ สำหรับอ่อมปูบ้านฉันเรียก"แล่ปู" อันนี้ก็เป็นเมนูโปรดของฉันเลยทีเดียว นอกจากนั้นช่วงเดือน3เดือน4ไฟไหม้ภู เราก็ไปเก็บผักหวาน
มาแกงใส่ไข่มดแดง อันนี้ก็อร่อย

พอฝนเริ่มตกชุกก็มีหน่อไม้ เราก็ไปภูเพื่อเก็บหน่อไม้เอามาต้มกินกับส้มตำ นอกจากหน่อไม้แล้วยังไปเก็บเห็ดอีกด้วย เห็ดที่ไปเก็บก็มีเห็ดละโงก เห็ดหน้างัว เห็ดไค เห็ดน้ำหมาก เห็ดตองและอีกหลายชนิดที่ฉันไม่รู้จัก

พอดำนาเสร็จ ช่วงที่ข้าวแตกกอเขียวขจีไปทั่วทุ่ง
ก็จะหาขุดไส้เดือนมาใส่เบ็ดปลา กบ หากินได้ทุกฤดู ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยได้ใช้เงินกัน อีกอย่างเงินก็หายาก ค่าแรงรายวันก็ประมาณ25-30บาท

ถึงแม้เงินจะหายาก แต่พี่ก็ยังเก็บหอมรอมริบจนส่งฉันเรียนจบม.6 ฉันต้องขอบคุณพี่จริงๆที่ทำให้ฉันได้มีวันนี้ และที่สำคัญฉันยังได้รู้จักกับเพื่อนๆในสตีมอิทอีกด้วย

ขอบคุณนะคะที่โหวต คอมเม้นต์และเป็นกำลังใจด้วยดีเสมอมา

Sort:  

ขอบคุณครับ ที่แบ่งปันเรื่องราวเล่าสู่กันฟังครับ วิถีธรรมชาติในชทบทและผู้คนเป็นสิ่ที่สวยงามครับ

ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาชม บ้านนอกคอกนาก็อยู่กันอย่างนี้แหละค่ะ ง่ายๆ สบายๆ

Coin Marketplace

STEEM 0.20
TRX 0.13
JST 0.030
BTC 65017.48
ETH 3454.80
USDT 1.00
SBD 2.50